สภาพอากาศวันนี้ อุตุฯ เผย 7 วันข้างหน้า (8-14 ม.ค.67) หนาวก็มี-ฝนก็มา

สภาพอากาศ วันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 7 วันข้างหน้า (8-14 ม.ค.67) หนาวก็มี-ฝนก็มา แถมร้อนขึ้น 2 องศา ทะลุ 36 องศา

ยังอยู่ในฤดูหนาวจริงๆ หรือ? ‘กรมอุตุนิยมวิทยา’ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระบุว่า ระหว่างวันที่ 8-11 ม.ค.67 ประเทศไทยได้พบกับการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิที่น่าสนใจ เนื่องจากการลดลงของความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครพร้อมปริมณฑล และภาคตะวันออก จึงประสบกับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส และมีหมอกบางในตอนเช้า

ส่วนภาคเหนือตอนบนได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดมา ทำให้อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ในทางตรงกันข้าม ยอดภูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาเซลเซียส

ต่อจากนั้น ในวันที่ 12-14 ม.ค.67 มวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้เคลื่อนลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่คลื่นกระแสลมจากประเทศเมียนมาเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนประสบกับฝนฟ้าคะนองในช่วงแรก และต่อด้วยการลดลงของอุณหภูมิ 1-2 องศาเซลเซียสในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขณะที่ภาคกลางและภาคตะวันออกจะประสบกับการลดลงของอุณหภูมิเล็กน้อยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บริเวณยอดดอยของภาคเหนือยังคงความหนาวจัด ด้วยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 4-11 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ในขณะที่ยอดภูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ด้วยอุณหภูมิต่ำสุดระหว่าง 10-16 องศาเซลเซียส

ส่วนของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ได้มีกำลังอ่อนลง อย่างไรก็ตาม ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง และในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค.67 บริเวณอ่าวไทยตอนล่างและทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

หลังจากนั้น ในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค.67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือได้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างประสบกับฝนที่เพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ภาคเหนือ: จะเผชิญกับอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยที่ตอนบนของภาคจะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส และตอนล่างจะมีอากาศเย็นและหมอกบางในตอนเช้า แต่อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1-2 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยจะพบกับอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ต่อมาในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค.67
จะมีฝนฟ้าคะนอง 10-30% ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จะมีอากาศเย็นพร้อมกับหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศเย็นถึงหนาว สำหรับวันที่ 12-14 ม.ค.67 จะมีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย

ภาคกลาง: จะพบกับอากาศเย็นและหมอกบางในตอนเช้า พร้อมกับอุณหภูมิที่จะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส แต่ในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค.67 จะมีฝนฟ้าคะนอง 10-30% ของพื้นที่

ภาคตะวันออก: จะมีอากาศเย็นพร้อมกับหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค.67 จะมีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ทะเลในภาคนี้จะมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร แต่ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นอาจสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก): จะมีฝนฟ้าคะนอง 20-30% ของพื้นที่ โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป ลมตะวันออกจะมีความเร็ว 15-30 กม./ชม. และทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค.67 จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น 30-40% ของพื้นที่ และฝนตกหนักทางตอนล่างของภาค

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก): จะพบกับฝนฟ้าคะนอง 10-30% ของพื้นที่ ตลอดช่วงเวลา ลมตะวันออกมีความเร็ว 15-30 กม./ชม. และทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่ง คลื่นอาจสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค.67 จะมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค.67 จะมีอากาศเย็นในตอนเช้า พร้อมกับฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย

โดยรวมแล้ว ประเทศไทยจะมีอากาศเย็นในช่วงเช้า และมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองในหลายภูมิภาค ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางและกิจกรรมกลางแจ้งในบางพื้นที่ ผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวควรติดตามข่าวสารและเตรียมตัวสำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงการแต่งกายอย่างเหมาะสมเพื่อรับมือกับอากาศเย็น และควรมีการวางแผนการเดินทางที่คำนึงถึงสภาพอากาศ

โดยเฉพาะในบริเวณที่มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองและทะเลมีคลื่นสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินเรือและกิจกรรมทางทะเล การอัปเดตข้อมูลอากาศอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ประชาชนและผู้ที่มีแผนเดินทางสามารถตอบสนองและปรับตัวตามสภาพอากาศได้อย่างเหมาะสมเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันและการเดินทาง