
วันเวลาล่วงเลยเข้าสู่กลางเดือนพฤศจิกายนแล้ว แต่ลมหนาวก็ยังไม่มา เสื้อกันหนาวยังคงนอนสงบนิ่งอยู่ในตู้ กรมอุตุฯก็ประกาศเลื่อนการเข้าสู่ฤดูหนาวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทั้งหมดก็เนื่องจากปัญหาโลกร้อนที่ส่งผลทำให้สภาพอากาศแปรปรวน
วันนี้ 14 พ.ย. รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับฤดูหนาว ผ่านเฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ว่า ฤดูหนาวปีนี้มาอย่างแน่นอน แต่จะมาแค่ชั่วครู่นะ ก่อนจะร้อนจนถึงช่วงปีใหม่
#ฤดูหนาวมาแน่แต่ไม่หนาวมาชั่วครู่แค่วันลอยกระทงแล้วกลับไปเหมือนเดิมจนถึงสวัสดีปีใหม่
สภาพอากาศแปรปรวน มวลอากาศเย็นจะลงมาให้สัมผัสชั่วครู่ตั้งแต่วันที่ 17-27 พฤศจิกายนนี้ ทำให้อุณหภูมิทั่วทุกภาคลดลงต่ำกว่าปกติ 3-5oC สภาพอากาศจะเย็นลงฉับพลันตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน โดยจะมีลมแรงในวันที่ 16 และ 17 พฤศจิกายน รักษาสุขภาพด้วยครับ
อยากสัมผัสความหนาวเย็น ต้องไปที่ยอดดอยน่ะครับ อุณหภูมิต่ำสุดในพื้นราบภาคเหนือ (เชียงใหม่) และภาคตะวันออกฉียงเหนือ (เลย) จะลดลงจากปัจจุบัน (22oC) เป็น 15-16oC ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ อุณหภูมิต่ำสุดจะลดลงจากปัจจุบัน (24oC) เป็น 18-19oC
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปลายเดือนนี้ อุณหภูมิจะสูงกว่าปกติจนถึงช่วงวันคริสต์มาส และปีใหม่ (ดูรูปประกอบบริเวณเฉดสีฟ้า และสีส้มหมายถึงอุณหภูมิจะต่ำ และสูงกว่าปกติตามลำดับ) ดังนั้นสภาพอากาศปลายปีจึงจะไม่หนาวเหมือนอดีตที่ผ่านมา
หลังเข้าสู่ปีใหม่ 2567 อุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนเมษายนจะสูงกว่าปกติทุกเดือนประมาณ 1-2oC ดังนั้นช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนก็จะร้อน และแล้งมาก เกษตรกร และชาวนาควรวางแผนการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานเอาน้ำต้นทุนจากไหน ?
คนกรุงเทพฯจะหลบร้อนไปพักผ่อนที่ไหนกันดี ? ผมแนะนำชายทะเลน่ะครับ จะได้รับลมผ่อนคลายร้อน แต่อย่าอยู่กลางแจ้งนาน ระวังคลื่นความร้อนด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังองค์ประกอบต่างๆ ครบสมบูรณ์ โดยอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบนลดลงต่ำกว่า 23 องศาเซลเชียส ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นในหลายพื้นที่ และทิศทางลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูง 100 เมตร ถึงความสูง 3,500 เมตร เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงตั้งแต่ 5,000 เมตรขึ้นไป เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตก ส่วนจะหนาวเย็นแค่ไหนนั้นคงต้องรอลุ้นกัน