กูรูด้านสภาพอากาศ เพิ่งออกมาเตือนว่า ปีนี้เราจะไม่หนาว เพราะคาดการณ์ว่า อุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงขึ้นเกือบ 2 องศาเซลเซียล ส่วนปีหน้าก็จะร้อนสุดๆ เพราะอุณหภูมิจะสูงกว่าปกติ 1.5 องศาเซลเซียล
ขณะที่ รายงานจาก สำนักข่าวรอยเตอร์ส และเอเอฟพี เผยว่า สำนักบริการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัสของสหภาพยุโรป (C3S) ได้ระบุ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. มีความเป็นไปได้สูงมากที่ปี 2566 จะกลายเป็นปีที่มีอุณหภูมิร้อนที่สุดในรอบ 125,000 ปี โดยมีหลักฐานจากข้อมูลที่ว่าเดือน ต.ค.2566 ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด ตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลมา
ซาแมนธา เบอร์เกส รองผู้อำนวยการ C3S ได้กล่าวว่า อุณหภูมิในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมานั้น สูงกว่าสถิติเดือน ต.ค.ที่ร้อนที่สุดเดิมในปี 2562 ถึง 0.4 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่มากและเป็นสถิติที่น่าตกใจ การร้อนขึ้นในเดือน ต.ค.ปีนี้ เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ รวมถึงปรากฎการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้อุณหภูมิของน้ำในพื้นที่ตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกสูงขึ้น
ที่มาจากข้อมูลของไมเคิล มานน์ นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ระบุว่า ปีที่มีการเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ มักจะเป็นปีที่ทำลายสถิติอุณหภูมิมาโดยตลอด
นอกจากนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในเดือน ต.ค.ของปีนี้ สูงกว่าช่วงเดียวกันในช่วงปี 2393-2443 ก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.7 องศาเซลเซียส ทำให้ปี 2566 มีโอกาสสูงที่จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูล ทำลายสถิติของปี 2559 ซึ่งเป็นปีที่มีปรากฎการณ์เอลนีโญ ปัจจุบันอุณหภูมิโลกสูงกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.43 องศาเซลเซียส
เบอร์เกส กล่าวว่า "จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2483 ที่รวมกับข้อมูลของไอพีซีซี ชี้ให้เห็นว่าปี 2566 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในรอบ 125,000 ปี" การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง เช่น น้ำท่วมใหญ่ในลิเบีย คลื่นความร้อนในอเมริกาใต้ และฤดูไฟป่าที่หนักหน่วงที่สุดในแคนาดา
ฟอสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลีดส์ เตือนว่า "เราไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์อย่างน้ำท่วม ไฟป่า พายุ และความร้อนรุนแรงกลายเป็นสถานการณ์ปกติ เราสามารถลดอุณหภูมิได้ครึ่งหนึ่ง ด้วยการลดก๊าซเรือนกระจกในทศวรรษหน้า" แต่ประเทศทั่วโลกยังไม่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ แม้ว่าจะมีเป้าหมายในการลดกำหนดไว้ และการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2565 สูงสุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
