เหนือ-อีสาน ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่ง กระทบต่อสุขภาพ กทม.อากาศดี

GISTDA เผยข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 พบจังหวัดภาคเหนือและอีสาน มีค่าฝุ่นพุ่งสูงระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและทางเดินหายใจ ส่วน กทม. คุณภาพอากาศดี

ปัญหาและผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากสภาพอากาศที่กำลังเข้าสู่หน้าร้อน รวมถึงสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย

ล่าสุด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่นเช็คฝุ่น  โดยในวันนี้ (16 มี.ค. 67) เวลา 09.00 น. มีการตรวจสอบปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 พบ 22 จังหวัดภาคเหนือและอิสาน มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ อาทิ  

แม่ฮ่องสอน 209.9 ไมโครกรัม  

ลำพูน  203.5 ไมโครกรัม  

เชียงใหม่ 189.8  ไมโครกรัม  

เชียงราย 174.7 ไมโครกรัม  

ลำปาง 160.6 ไมโครกรัม  

พะเยา 159.7 ไมโครกรัม  

น่าน 142.2 ไมโครกรัม เป็นต้น 

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเช้าวันนี้พบค่าฝุ่น PM2.5 ทุกเขตอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดีมาก และที่สำคัญเช้านี้พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนตก จึงอาจส่งผลทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในเกณฑ์ปกติ 

แต่อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ได้คาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนเหนือภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   

ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชันเช็คฝุ่นมีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ