
จากกรณีที่ น.ส.ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือ หยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ภาพนั่งกางร่มอยู่หน้าโรงเรียน พร้อมป้าย "หนูขอเข้าสอบ" ซึ่งภาพดังกล่าว สังคมต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า การกระทำดังกล่าวของ หยก นั้นเป็นการจัดฉาก โดยโซเชียลได้ออกมาเผยคลิปจากกล้องวงจรปิดขณะที่หยกนั่งหน้าโรงเรียน และเห็น บุ้ง ทะลุวัง เข้ามาพูดให้เขียนป้ายเป็นคำว่า "หนูขอเข้าสอบ"
ล่าสุด (18 ก.ย. 66) หยก ได้ออกมาโต้ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า
หนูนั่งที่เดิมตรงที่เคยมีนักสิทธิมนุษยชนไปโพสต์ว่าหนูจัดฉาก แล้วคุณสรยุทธเอาวิดีโอตัวสั้นตัดมาไม่นานมาลง มีเสียงพี่บุ้งบอกให้หนูเขียนข้อความ
ข้อความที่พี่บุ้งบอกหนูคิดมาแล้วว่าจะเขียนถ้าครูปฏิเสธ แต่ถ้าใครดูตัวเต็มวิดีโอ จะเห็นเหตุการณ์ที่แตกต่าง มันเริ่มจากหนูเขียนกระดาษเสียไปหลายใบเพราะลายมือไม่สวยสักที จนพี่บุ้งบอกหนูว่าหนูต้องเขียนข้อความสี่คำนี้แบบไหน เว้นวรรคยังไงถึงจะชัด โดยหนูบอกว่าลายมือไม่สวยๆ พี่บุ้งก็มาช่วย
ที่จริงถ้ากล้องหน้าโรงเรียนมีครบน่าจะมีให้ดูตอนที่พี่บุ้งบอกให้กลับบ้านด้วย แต่หนูตอบว่าไม่ แต่หลายๆ ครั้งกล้องไม่ลงตัวเต็มหนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้องของใครและตัดมาทำไมเท่านี้
เรื่องที่มีนักสิทธิมนุษยชนมาโพสต์ให้สังคมเข้าใจว่าหนูจัดฉากก็เหมือนกัน จริงๆ แล้วหนูก็นั่งจริงๆ นั่นแหละแต่นั่งในห้องประชาสัมพันธ์ แล้ววันนั้นพอจะถ่ายรูปหนูก็เลยออกมาถ่ายเป็นเชิงสัญลักษณ์เนื่องจากไม่สามารถถ่ายภายในห้องนั้นได้ เพราะคุณครูไม่อนุญาตให้พี่ๆ นักข่าวถ่ายรูปในห้องประชาสัมพันธ์ แต่การนั่งเพื่อประท้วงโดยสันติแต่ถูกเมินเฉยของหนูยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้คิดว่าจะไม่นั่งข้างในห้องประชาสัมพันธ์แล้ว ถึงพี่บุ้งจะยังเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ
เรื่องของหนูหนูเข้าใจว่าหลายคนไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเพราะไม่ชอบพี่บุ้ง หรือเพราะอะไร แต่หนูเป็นคนที่ขอมาอยู่กับพี่เขาสมัครใจที่อยู่กับพี่เขา และที่สำคัญเขาไม่ได้บังคับหนู แต่ทุกคนไม่เคยมีใครมาถามหนูสัมภาษณ์หนูเหมือนกันว่าเรื่องจริงคืออะไร แต่มีแต่เอาคลิปวิดีโอไม่กี่วินาทีมาลง
หนูไม่แน่ใจว่า ที่โรงเรียน พวกคุณ สังคมทำ
กับที่หนูทำอันไหนรุนแรงดูหยาบคายกว่ากัน
ซึ่งข้อความที่หยกโพสต์ ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่มองว่า อยากให้หยกเริ่มต้นเรียนหนังสือใหม่ ทำตามกฎของสังคม เสียดายโอกาสที่หยกจะได้มีชีวิตในวัยเรียน สดใส ร่าเริง ได้อยู่กับเพื่อนๆ ตามประสาตามวัย...