ภูมิธรรม ลั่น หากเจรจา JBC ล่ม พร้อมปิดด่านชายแดน

“ภูมิธรรม” เผย กัมพูชาละเมิดกฎ ล้ำพื้นที่โนแมนแลนด์ 200 เมตร ยันไทยมีหลักฐานประท้วงตลอด – ลั่นหากเจรจา JBC ล้มเหลว พร้อมปิดด่านทันที – มอบอำนาจแม่ทัพภาค 2 หากประกาศกฏอัยการศึก

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่มากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน  

ทั้งนี้แนวคิดการปิดด่านของแม่ทัพภาคที่ 2 หมายความว่าหากเจรจา JBC ไม่สำเร็จ การปิดด่านคือมาตรการต่อไป ซึ่งเป็นการเสนอตามลำดับขั้นตอน นอกจากนี้ ยังมีถึงกรรมการบริหารและโฆษกพรรคการเมืองบางพรรค ที่เอาข้อความไปโพสต์ทางกลุ่ม LINE ต่าง ๆ ซึ่งก็ไม่เป็นผลดี เพราะการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จมันมีผล ซึ่งเป็นถึงกรรมการบริหารพรรคต้องระมัดระวัง ตนมองว่าพรรคฝ่ายค้านต้องมีสติ เพราะวันนี้เราต้องการความร่วมมือกัน ข้อเสนอแนะสามารถเสนอได้ แต่ไม่ใช่เอาข้อมูลอันเป็นเท็จไปร่อนอยู่ในโซเชียลมีเดีย  

ส่วนที่มีการระบุว่ามีการเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้วนายกฯ เรียกประชุมวงอื่น ทำให้เหล่าทัพรอเก้อ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากวานนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก็ไปกับตน ซึ่งตนได้มีการสั่งประชุม สมช.ชุดเล็กเพื่อให้พิจารณา เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา และวันนี้จะสรุปรายงานส่งมาที่ตน และตนได้สั่งการไปแล้วว่า สมช.ในฐานะฝ่ายนโยบาย จะต้องประชุมกันตลอดในช่วงนี้ เพื่อให้ฝ่ายนโยบายกับฝ่ายปฏิบัติการสอดคล้องกัน และหากมีการปิดด่าน สมช. ก็จะต้องเป็นผู้พิจารณาโดยตรง แต่หากมีการประกาศกฎอัยการศึก อำนาจอยู่ที่แม่ทัพภาคที่ 2

นายภูมิธรรม ยังระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งอธิบดีกรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี และตนเอง ยืนยันว่าเราทำงานอยู่ตลอดเวลา แม้วันนี้จะออกมาถล่ม รมว.กลาโหม ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าทำให้ประเทศชาติ เกิดผลกระทบ เรื่องนั้นสำคัญที่สุด และเชื่อว่าทุกคนรักประเทศ

ส่วนการรุกล้ำเขตแดนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ 200 เมตร นายภูมิธรรมอธิบายว่า อยู่ในระหว่างการใช้กลไก JBC ในการจัดการซึ่งปัญหาอยู่ในพื้นที่ของการกำหนดแต่ละฝ่าย มีจุดที่ทับซ้อนกันอยู่ ซึ่งเราก็กำหนดเป็นโนแมนแลนด์ ยอมรับว่ามีการล้ำเข้ามาในจุดดังกล่าว แต่ไม่ใช่ เกินเข้ามาในเขตแดน ซึ่งละเมิดข้อตกลง JBC ในข้อ 5 ตนเชื่อว่ากลไก JBC จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่หากเขาไม่ยอมรับก็จะเป็นปัญหา ก่อนย้ำว่า การที่กัมพูชาเข้ามาในพื้นที่โนแมนแลนด์ ถือว่าเป็นการละเมิดข้อตกลง แต่ยังไม่ใช่เป็นการบุกแผ่นดินไทย เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นปัญหาชายแดนที่ยังถกเถียงกันไม่จบ ย้ำว่าใช้กลไกสันติวิธีระหว่างประเทศ ผ่านการเจรจาในการแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่เป็นการยอมแต่อย่างไร  

ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการประชุมการประชุม IISS Shangri-La Dialogue เวทีหารือด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ประเทศสิงคโปร์ ขณะประเทศฟิลิปปินส์กำลังพูดคุยกับประเทศไทยนั้น ได้มี นายทหารกัมพูชา เอ่ยถามความคิดเห็นทาง ฟิลิปปินส์ว่ามองอย่างไรถึงเหตุการณ์ปะทะ จนมีทหารกัมพูชาเสียชีวิต ว่าผู้ที่ซักถามขึ้นมานั้นไม่ใช่ตัวแทนรัฐบาล ซึ่งไม่ถือว่าเป็นสาระ ที่เราต้องไปทำอะไร  

นายภูมิธรรม ยังระบุว่า ตนได้สั่งให้ทางกองทัพบกเตรียมความพร้อม ตั้งแต่ที่กัมพูชาได้มีการเผาศาลาตรีมุข จึงให้ความมั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกองทัพมีความพร้อม แต่หากมีการละเมิดข้อตกลงก็ต้องไปเจรจาในJBC ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ที่กรุงพนมเปญ และทางการไทยได้มีการประชุมเตรียมความพร้อม ตั้งแต่ตนอยู่สิงคโปร์ และยืนยันความพร้อมทั้งหมด และเตรียมการเป็นอย่างดีไม่ต้องห่วง โดยเฉพาะมีหลักฐานของการยื่นประท้วง ของกองกำลังสุรนารีทุกครั้ง ทุกอย่างที่มีการประท้วงไปแสดงว่าเราไม่ได้มีการยอมรับในการเจรจา ในกระบวนการเรามีการเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมด หลายๆอย่างตนยังไม่อยากพูด เพราะไม่ใช่เวทีที่จะพูดกันกลางอากาศ และยังไม่อยากให้เขารู้ว่าเราเตรียมอะไร ส่วนหากเจรจายังไม่สำเร็จก็จะต้องคิดว่าจะใช้มาตรการอย่างไรต่อไป  

เมื่อถามว่า ระหว่างการรอเจรจา ทุกฝ่ายจะต้องหยุดไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น แต่เราก็ห้ามใจของแต่ละฝ่ายไม่ได้ เพราะฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้น เราก็จะประท้วง หรือดำเนินการ และย้ำว่า การใช้วิธีเจรจา ไม่ได้หมายความว่าเราจะยอมศิโรราบ  

เมื่อถามว่า ทราบว่าวันนี้จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนได้ให้ สมช.ประชุมแล้วตั้งแต่เมื่อวาน (4 มิ.ย.) เป็นการประชุมวงเล็ก กำลังจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา เพื่อติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งคณะกรรมการชุดเล็กได้ทำเรื่องเสนอมาแล้ว และตนจะเซ็นตั้งในวันนี้ ส่วนเขาเสนอให้ใครเป็นประธานนั้น ตนยังไม่เห็น หากมีอะไรซึ่งกรรมการชุดนี้ก็จะเสนอ สมช.ชุดใหญ่ ซึ่งทุกฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง เพราะเราคาดไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น   

เมื่อถามว่า บริเวณชายแดนปกติมีกฎอัยการศึกอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า แล้วแต่จุด อยู่ที่แม่ทัพพิจารณาว่าจะประกาศหรือไม่ และเขาทราบอยู่แล้วว่าถ้าถึงจุดนั้นต้องทำอย่างไร  

เมื่อถามว่า ตอนนี้ชายแดนที่เกิดเหตุแบบนี้ จะสามารถใช้ความสัมพันธ์พิเศษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และฮุนเซ็น ทำให้ปัญหายุติลงได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ฝ่ายปฏิบัติการยังทำเต็มที่ ซึ่งส่วนตัวก็เป็นเรื่องที่นายทักษิณ จะคุยเพื่อช่วยประเทศอย่างไร ซึ่งท่านคุยหรือไม่ตนไม่ทราบ ตนก็ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกหน่วยงานที่ตนดูแลอยู่ก็เคลื่อนไหวกันหมด 

เมื่อถามว่า การประชุม JBC จะคุยเฉพาะในพื้นที่ช่องบกอย่างเดียว ไม่ได้รวมถึงเกาะกูดและพื้นที่อ้างสิทธิ์อื่นด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลาเกิดเหตุการณ์  ยิ่งคุยกว้างยิ่งจบยาก หากปัญหาเกิดตรงนี้ ก็ต้องโฟกัสตรงนี้ เขาต้องการขยายกว้าง แต่เราคุยแคบ หากเราไปตามเขา ก็เท่ากับเปิดประเด็นทั้งหมดที่เป็นปัญหา ถ้าเขาร้อนเราก็ต้องเย็น เพราะตอนนี้ที่เขาบอกว่าจะขึ้นศาลโลก เขาพูดฝ่ายเดียวก็ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าเราไปบอกว่าโอเคหรือไม่โอเค ก็จะเป็นประเด็น ดังนั้น หากเขานำเรื่องขึ้นศาลโลก ก็ต้องได้รับการยอมรับจากเรา เรายืนยันว่าจะให้จบที่การประชุม JBC ที่เราทำขณะนี้ เราใช้สติในการดูว่าแค่ไหนอย่างไรจึงจะเหมาสมเท่านั้น ตอนนี้เราเตรียมพร้อมตลอดแนวชายแดน