“โรม” ชื่นชม ก.ต. ฟัน 3 ผู้พิพากษา ปมแทรกแซงถอนหมายจับ สว.ทรงเอ

รังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ชื่นชม “ตุลาการศาลยุติธรรม” (ก.ต.) สั่งลงโทษ 3 ผู้พิพากษา ให้ออกจากราชการ กรณีแทรกแซงถอนหมายจับ สว.ทรงเอ

จากกรณี ผลการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ครั้งที่ 13/2568 โดยสำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีคำพิพากษาลงโทษ 3 ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องการแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีเพิกถอนหมายจับ สว.ทรงเอ ดังนี้

1. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตุลาการ 1 ราย

2. พิจารณาผลการสดับตรับฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของข้าราชการตุลาการ 1 ราย

3. เห็นชอบให้ทบทวนมติ ก.ต. ครั้งที่ 21/2567 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 พิจารณาความ เหมาะสมผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เลื่อนจากข้าราชการตุลาการชั้น 3 เป็นชั้น 4 ในวาระโยกย้าย 1 ตุลาคม 2567 จํานวน 1 ราย และปฏิเสธบัญชีวาระพิเศษ

4. เห็นชอบรายงานผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณา กลั่นกรองคุณสมบัติของผู้เข้ารับการคัดเลือกเพื่อดํารงตําแหน่งผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด
หนองคาย ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ

5. พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการ 1 ราย กรณีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ ไม่สํารวมกิริยามารยาท และเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่น อันเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการ กรณีเป็นความผิดวินัยร้ายแรง เห็นควรให้ออกจากราชการ

6. พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการ 1 ราย กรณีเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสํานวน ทําคําพิพากษาโดยกล่าวถึงบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่คู่ความ และไม่ได้ถูกฟ้องเป็นจําเลยว่ามิได้กระทําความผิด โดยไม่ปรึกษาและแจ้งให้องค์คณะและผู้บริหารทราบ เป็นเหตุให้มีการนําคําพิพากษาส่วนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ โดยมิชอบ อันเป็นความผิดวินัยร้ายแรง เห็นควรให้ออกจากราชการ

7. พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการ 1 ราย กรณีมีพฤติการณ์เป็นที่สงสัยว่ากระทํา ผิดวินัย ร่วมรู้เห็นเรื่องการขอแลกเปลี่ยนเวร และร่วมขบวนการเกี่ยวกับการยื่นคําร้องอุทธรณ์คําสั่งปล่อยชั่วคราว
โดยมีคําสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวขัดต่อกฎหมายอันเป็นดุลพินิจที่ไม่ชอบ และไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน และประเพณีปฏิบัติของราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการ เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เห็นควรไล่ออกจากราชการ และมีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดําเนินการต่อไป

ในเวลาต่อมา (19 พ.ค. 68) นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ชื่นชมการทำงานของสำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ที่มีคำสั่งพิพากษากรณีดังกล่าว ระบุว่า

จากกรณีที่ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (กต.) มีมติให้ผู้พิพากษาที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงการเพิกถอนหมายจับ สว. ทรงเอ ผมคิดว่า การทำหน้าที่ กต. ถูกต้องดีแล้ว เรื่องนี้ต้องชื่นชมการทำงานของ กต. จริงๆ

ถ้าใครจำกันได้ เรื่อง สว. ทรงเอ ที่ผมเคยอภิปรายเปิดโปงในสภาตั้งแต่ปี 2566 รวมถึงนำเอกสารเพิกถอนหมายจับที่อดีตรองอธิบดี นามว่า อรรถการ ฟูเจริญ เข้าไปเกี่ยวข้อง ส่งผลให้ สว.ทรงเอ ถูกถอนหมายจับในเวลาห่างจากการออกหมายจับไม่กี่ชั่วโมง คงจะมีการวิ่งเต้นกันน่าดู จึงกล้าถอนหมายจับ และเรียกตำรวจที่ทำคดีนี้ไปตำหนิโดยไม่ให้เกียรติใดๆ

เรื่องนี้นอกจากผมได้เคยทำหนังสือร้องไปยัง กต. แล้ว ผมยังเคยร้องเรื่องนี้ไปยัง ปปช. ด้วย ก็คงจะต้องติดตาม ปปช. กันต่อไปว่าเรื่องภายใน กต. มาถึงขนาดนี้แล้วทาง ปปช. จะว่าอย่างไรต่อ

อนึ่ง ต้องฝากเรื่องนี้ไปถึงบิ๊กต่าย ผบ.ตร. ว่าคดี สว. ทรงเอ ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับถูกให้ออกจากราชการแล้ว เมื่อไหร่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการย้าย หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ของหน่วยตำรวจที่ทำหน้าที่จัดการ สว. ทรงเอ จะถูกดำเนินการอะไรบ้าง หรือไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกันเลยหรือ นอกจากนี้บิ๊กต่ายไม่คิดว่าเรื่อง สว.ทรงเอ ควรค่าต้องการตั้งทีมในการขยายผลต่อเพื่อจัดการบรรดาคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดตามเส้นเงินเครือข่าย สว.ทรงเอบ้างหรือครับ

    ขอบคุณข้อมูล :