เพื่อไทยแถลง แยกทาง ก้าวไกล ขอเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมใหม่

เพื่อไทย แถลงยืนยัน ฉีก MOU 8 พรรคร่วม ขอแยกทาง ก้าวไกล ออกไปหาเสียงพรรคร่วมใหม่
เพื่อไทยแถลง แยกทาง ก้าวไกล ขอเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมใหม่

ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งโต๊ะอ่านแถลงการณ์จากพรรค ถึงการจัดตั้งรัฐบาล

พรรคเพื่อไทยในฐานะ รับมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาล เริ่มต้นใหม่ ร่วมผ่าทางตัน ในการหาทางออกให้กับประเทศ

เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้จับมือร่วมกับ พรรคการเมืองอีก 6 พรรค รวมเสียงได้ 312 เสียง

เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และเสนอคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ทั้ง 8 พรรคมีข้อสรุปภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีความเห็นอย่างชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย ยึดมั่นในการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศและไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาได้ โดยมีเพียง 324 เสียง จากที่ต้องการถึง 376 เสียง

ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้สนับสนุนพรรคก้าวไกลอย่างเต็มความสามารถ ทั้งการอภิปราย และยกมือสนับสนุน 141 เสียง แต่เนื่องจากปรากฎเงื่อนไขของพรรคการเมืองอื่นๆ และสมาชิกวุฒิสภา

ไม่ยอมรับนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล

โดยพรรคก้าวไกลรับทราบท่าทีเหล่านี้ แต่ยืนยันไม่ปรับเปลี่ยนนโยบาย จึงเป็นการแน่ชัดว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล จะไม่สามารถผ่านการลงมติเห็นชอบจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งได้

ดังนั้นที่ประชุม 8 พรรคร่วม จึงมีมติส่งมอบภารกิจแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทย โดยเห็นชอบแนวทางให้พรรคเพื่อไทย หาเสียงสนับสนุนทั้งจากพรรคการเมืองนอกกลุ่มพรรคร่วมเดิม และสมาชิกวุฒิสภาได้

เมื่อได้รับมอบหมายภารกิจ พรรคเพื่อไทยจึงเดินหน้าเพื่อหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมทั้งจาก สว. และ สส. โดยการเชิญหลายพรรคการเมืองเข้าหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย และส่งตัวแทนรับฟังความคิดเห็นสมาชิกวุฒิสภาทั้งเป็นกลุ่มและรายบุคคล

พบว่านโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงเป็นเงื่อนไขหลัก ขณะที่บางพรรคและบางคนแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งที่จะไม่สนับสนุนการร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกลในทุกกรณี

ในสถานการณ์เช่นนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษาหารือกับพรรคก้าวไกลขอถอนตัวจากการร่วมมือกัน และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน ขอยืนยันชัดเจนว่า

เราจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112

และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วม พรรคเพื่อไทยจะใช้ความพยายามรวบรวมเสียง ให้เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านและยืนยันจะทำงานการเมืองในมิติใหม่ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ในภารกิจที่สำคัญ ดังนี้

1. เราจะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอันเป็นต้นเหตุของความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ของประเทศ โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเริ่มจากมติ ครม.ในการประชุมครั้งแรก ให้มีการทำประชามติ และจัดตั้ง สสร. ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ รัฐบาลจะคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

2. นโยบายที่พรรคเพื่ทยและพรรคร่วมได้นำเสนอต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน อาทิ กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายสุราก้าวหน้า การปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับเป็นระบบสมัครใจ ฯลฯ ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เป็นต้น

ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะผลักดันร่วมกับพรรคร่วมเพื่อให้นโยบายที่เป็นประยชน์ต่อพี่น้องประชาชนดำเนินการได้ประสบความสำเร็จ

พรรคเพื่อไทย ขอแสดงความจริงใจต่อเพื่อนมิตรทุกพรรคการเมือง และสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งพี่น้องประชาชนว่า

นี่คือแนวทางที่จะรักษาสถาบันสำคัญของชาติให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ และช่วยผลักดันความต้องการของประชาชน ภายใต้ข้อจำกัดและเส้นทางที่ยากลำบากนี้ไว้ได้ เพื่อให้การกิจนำพา ประเทศพ้นวิกฤต สร้างสรรค์ประชาธิปไตย แก้ไขความขัดแย้ง คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ปลดพันธนาการจากกลไกที่ไม่ปกติให้คืนสู่ความปกติ และใช้ประสบการณ์ และความสามารถของบุคลากรของพรรคเพื่อไทยเร่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนโดยเร็ว ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งเป็นกติกาสูงสุดจากอำนาจประชาชน

หลัง นายชลน่าน อ่านคำแถลงการณ์เสร็จ นักข่าวได้ถามถึงความคืบหน้า การโหวต นายก ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้

นาย ชลน่าน เผยว่า พรรคร่วมใหม่ จะมีพรรคไหนบ้าง รอแถลงพรุ่งนี้

ส่วน สว. จะโหวตให้ไหม - มั่นใจว่าภายใต้เงื่อนไขที่แถลง มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ จน สว. เปลี่ยนใจ ให้เห็นชอบได้

การแถลงครั้งนี้ ไม่ใช่การบอกเลิก แต่เป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ ที่ต้องแยกมาจัดตั้ง รัฐบาลโดยไม่มี พรรคก้าวไกล

พร้อมชี้แจงความสัมพันธ์ กับพรรคก้าวไกล ตลอดระยะที่ผ่านมาว่า

ที่ผ่านมาติดต่อตรงกับก้าวไกลมาโดยตลอด ในส่วนที่มีการออกมา กล่าวหาจากคนในพรรคก้าวไกล ไม่ถือสา แต่ที่รอเพราะถูกร้องขอ ให้รอถึงวันที่ 31 ก.ค. 5 ทุ่ม แต่ไม่มีการติดต่อมา

และทางพรรคเพื่อไทย โทรชี้แจงกับ 6 พรรคร่วม ให้รู้ถึงปัญหา และทั้งหมดรับรู้แล้ว ข้อจำกัดด้านเวลา จึงได้โทรหาทุกพรรค โดยแจ้งถึง 3 ประเด็นหลัก คือ

1. เพื่อไทย แจ้งเหตุผลและความจำเป็นโดยไม่มี พรรคก้าวไกล ในการจัดตั้ง รัฐบาล

2. กรณีพรรรคร่วมอื่นจะตัดสินใจอย่างไรในการร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร่วมเป็นดุลพินิจของแต่ละพรรค

3 . การโหวตของก้าวไกล จะโหวตช่วย - ไม่ช่วย ในเรื่องนี้ เป็นเอกสิทธิ์ของก้าวไกล เพื่อไทยไม่สามารถแสดงความเห็นเรื่องนี้ได้ เป็นเรื่องของก้าวไกล

พรุ่งนี้จะแถลงอย่างเป็นทางการ ในการจัดตั้งรัฐบาล บางพรรคตอบรับมาแล้ว

ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจอย่างมากว่า การเลือกนายก ในสภาฯ ในครั้งนี้ น่าจะประสบสำเร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

No stories found.

ข่าวยอดนิยม

No stories found.
logo
ข่าว อีจัน
www.ejan.co