วันนี้ (11 ก.ย.66) ถือเป็นอีกวันในการชี้ชะตาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาวไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะมีการประชุมร่วมระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เพื่อพิจารณาเรื่องเร่งด่วนให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามมาตรา 162 ซึ่งเป็นการแถลงนโยบายของ ครม.เศรษฐา 1 ก่อนที่ รัฐบาล จะดำเนินการทำงานตามอำนาจ
“เศรษฐา” แถลงนโยบายรัฐบาล ย้ำ ไม่แก้ไขรัฐธรมนูญในหมวดสถาบันซึ่งหลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงถึงสิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการแล้ว ก็ถึงคิวการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
การตั้งโจทย์แถลงนโยบายในการบริหารประเทศนั้นสวนทางกับความสูงของนายกฯ เพราะคลุมเครือ และขาดความชัดเจน ซึ่งที่เห็นได้ชัดคือ นโยบายที่แถลงนั้นไม่ตรงกับที่หาเสียงไว้ จนกลายเป็นนโยบายไม่ตรงปก ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้ทวงถึง 5 นโยบายหาเสียง ที่ไม่มีในคำแถลงนโยบาย ดังนี้
1. นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 25,000
โดยตอนหาเสียงบอกไว้ว่า ผู้ที่เรียนจบปริญญาตรี หรือทำงานราชการเงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาท ภายในปี 2570 พอได้เป็นรัฐบาลแล้วนโยบายนี้หายไปไหน หรือคิดว่านโยบายดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการปี 2570 ซึ่งนายกฯ เศรษฐา อยู่ไม่ถึง เลยไม่ได้ระบุลงไว้
2. นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท
ตอนหาเสียงหลายฝ่ายได้ทักท้วงเกรงว่า ถ้าค่าแรงขึ้นเอกชนจะเจ๋ง และส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าหรือไม่ จนต้องเปลี่ยนเป็นค่าแรงวันละ 600 บาท ภายในปี 2570 แต่พอถึงวันนี้ ในคำแถลงกลับเหลือแค่บรรทัดเดียว คือค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรม แล้วค่าแรงวันละ 600 บาท ที่เคยหาเสียไว้หายไปไหน
3. นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลดรายจ่ายประชาชน
ตอนหาเสียงบอกว่าจะทำทันที ตอนนี้นโยบายดังกล่าวอยู่ที่ไหน เมื่อโดนจี้ถามก็ให้คำตอบว่าจะทำในอีก 2 ปี ซึ่งจะเอางบประมาณที่ไหนมาทำ หรือต้องเอาเงินประเทศไปชดเชยให้เอกชนหรือไม่
4. นโยบายลดความเหลื่อมล้ำ เติมเงินครอบครัวละ 20,000 บาท ทุกเดือน
ซึ่งพบว่าครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ มีเกือบ 20 ล้านครอบครัว ต้องใช้เงินหลักแสนล้านบาท รัฐบาลจะนำเงินมาจากไหน
5. กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เลือกตั้งผู้ว่าฯ ในจังหวัดที่พร้อม
ซึ่งเป็นอีกนโยบายที่ไม่มีในแถลง แถมยังเปลี่ยนจากการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เป็นรวบอำนาจสู่การปกครองส่วนภูมิภาค ซึ่งย้อนยุคไปกว่า 20 ปี อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่านายเศรษฐา และคณะรัฐบาลจะทำอย่างไรเกี่ยวกับนโยบายเหล่านนี้ที่หายไป