
กรณีก่อนหน้านี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินของ นางประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งเป็น 1 ใน 13 สว.ที่เห็นชอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
โดย นางประภาศรี ว่า พอเราโหวตไม่ตรงกับคนส่วนใหญ่ก็ถูกแกล้ง เพราะที่มีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ก็มีแต่กลุ่มผู้ที่ลงมติแบบเดียวกัน
"สิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกไม่เป็นธรรมอย่างมาก ทำไมเลือกส่งเรื่องเฉพาะ สว. 6 คนตามที่เป็นข่าว และคิดว่าทำไมจึงปล่อยโอกาสให้ผู้ร้องเรียนมีแต่พวกหน้าเดิมๆ และร้องเรียนได้เรื่อยๆ ประชาชนก็เริ่มเบื่อ คนที่ร้องเรียนแบบนี้
ทั้งนี้ หากร้องเรียนไปแล้ว ต่อมาพบว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ควรฟ้องกลับได้ และควรมีระเบียบว่า ผู้ร้องเรียนสามารถร้องให้มีการตรวจสอบได้กี่คน ร้องได้กี่ครั้ง ไม่ใช่ให้ร้องไปได้เรื่อยๆ ตามที่ต้องการ" นางประภาศรี กล่าว
ส่วนประเด็นที่ถูกร้องเรียนใน 3 จุด มั่นใจว่า จะสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด เพราะเป็นคนที่ทำอะไรถูกต้อง ตอนยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน ต่อสำนักงาน ป.ป.ช.ก็ให้นักกฎหมาย และนักบัญชีมาพิจารณา ก่อนจะส่งไปยัง ป.ป.ช. และคิดว่า ป.ป.ช.ก็คงจะลงโทษผู้ที่ต้องการมาโกง คนทุจริต แต่หากคนไหนขาดส่งเอกสารเล็กน้อย คิดว่า ป.ป.ช.ไม่น่าจะนำมาเป็นประเด็น คนที่ไม่ได้มีเจตนาจะโกง ไม่น่าจะโดน
อ่านที่เกี่ยวข้อง: