รองโฆษกอัยการ แจงขั้นตอนพิจารณาความเห็นเเย้ง DSI คดีบิลลี่

รองโฆษกอัยการ แจงการพิจารณาความเห็นเเย้ง DSI เผย คดีบิลลี่ อสส. ยังมีอำนาจสั่งสอบเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 63 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงขั้นตอนหากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ทำความเห็นแย้งคดีที่มีการกล่าวหา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ผอ.ทสจ.) ปัตตานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับลูกน้อง 3 คน ตกเป็นผู้ต้องหา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้าย และร่วมกันฆ่าอำพรางศพ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ว่า หากทางอธิบดีดีเอสไอมีความเห็นแย้งเข้ามา สำนวนจะถูกส่งไปที่สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด (ชี้ขาดความเห็นแย้ง)

ภาพจากอีจัน
โดยเมื่อได้รับสำนวนแล้ว อธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดก็จะจ่ายสำนวนลงไปยังอัยการผู้ปฏิบัติ ซึ่งพนักงานอัยการดังกล่าวจะต้องผ่านการเป็นอัยการจังหวัดมาแล้ว พิจารณาสำนวนเสนอความเห็นผ่านอัยการพิเศษฝ่ายฯ สำนักงานคดีชี้ขาด และทำความเห็นเสนอผ่านรองอธิบดีฯสำนักงานคดีชี้ขาดฯ ไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานคดีชี้ขาดฯ และส่งต่อไปยังรองอัยการสูงสุดผู้ที่รับผิดชอบงานชี้ขาดคดีฯ ทำความเห็นส่งไปยัง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์อัยการสูงสุด(อสส.)พิจารณาชี้ขาดเป็นคนสุดท้าย เเละความเห็นถือเป็นที่สุด เมื่อถามว่าอัยการสูงสุดจะชี้ขาดได้ในแนวทางใดบ้าง สามารถสั่งสอบเพิ่มเติมได้หรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า อัยการสูงสุดมีอำนาจที่จะสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ถ้าหาก อสส. พิจารณาแล้วเห็นว่าสำนวนยังมีความจำเป็นที่จะต้องสอบสวนเพิ่ม ก่อนจะมีคำสั่งก็สามารถทำได้
ภาพจากอีจัน
ซึ่งที่ผ่านมา ในทางปฏิบัติก็มีหลายสำนวนที่อัยการสูงสุดสั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนการสอบสวนเพิ่มจะเกิดขึ้นได้ 2 กรณี คือ 1.ประเด็นที่มีการตั้งเสนอขึ้นมาจากสำนักงานชี้ขาดคดีฯ ว่าควรจะให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นใด ซึ่งอัยการสูงสุดก็จะพิจารณาว่าควรสั่งสอบเพิ่มหรือไม่ก็ได้ 2.หากแม้สำนักงานชี้ขาดคดีฯ ไม่มีความเห็นเสนอว่าให้สอบเพิ่ม แต่ อสส. ยังมีอำนาจเห็นควรสั่งสอบเพิ่มเองได้