30 เมษายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เผยว่า ศบค. มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนปรนให้มีมาตรฐานกลางบางกิจการและกิจกรรม เช่น แผงลอย หาบแร่ กิจกรรม เช่น การออกกำลังการในสวนสาธารณะ โดย ศบค. จะกำหนดมาตรฐานกลาง และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่ากทม. กำหนดรายละเอียดต่อไป ส่วนมาตรการของแต่ละพื้นที่สามารถเข้มข้นมากกว่ามาตรฐานกลางได้ แต่น้อยกว่ามาตรฐานกลางไม่ได้ ทั้งนี้จะต้องมีแนวทางที่ต้องคำนึงถึงด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และสังคม-เศรษฐกิจตามมา ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 1 ข้อ 11 เช่น ทำความสะอาด กำจัดมูลฝอย ใส่หน้ากากผ้าอยู่เสมอ การล้างมือ เว้นระยะนั่ง 1 เมตร มีแอปพลิเคชั่นตามตัว เป็นต้น
- มติบอร์ดโรคติดต่อฯ เห็นชอบเพิ่มอัตราตรวจโควิด-19 ในกลุ่มอาชีพเสี่ยง
- ยอดหลักเดียว ศบค.เเถลง ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
- หูเป่ยปรับลด ค่าตรวจโควิด-19 แบ่งเบาค่าใช้จ่ายปชช.
ภาพจากอีจัน
สำหรับมาตรการผ่อนปรน 6 ประเภทกิจการและกิจกรรม มีดังนี้ 1.ตลาด
ตลาดสด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย
2.ร้านจำหน่ายอาหาร
ร้านอาหารทั่วไป เช่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้าง)
ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่
3.กิจการค้าปลีก-ส่ง
ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง / ยืนรับประทาน
รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภค บริโภค
ร้านค้าปลีกขนาดย่อม/ร้านค้าปลีกชุมชน
ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
4.กีฬา สันทนาการ
กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดินรำไทเก็ก
สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟและสนามซ้อม
ภาพจากอีจัน
5.ร้านตัดผม เสริมสวย ร้านตัดผมเฉพาะ ตัด สระ ไดร์ผม
ภาพจากอีจัน
6.อื่นๆ
ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์
ภาพจากอีจัน
ทั้งหมดนี้ จะเริ่มผ่อนปรนในวันที่ 3 พ.ค. 63