ตำรวจมุกดาหาร เร่งรวบรวมหลักฐานเพิ่ม เอาผิดกลุ่มครู-ศิษย์เก่าหื่น รุมโทรมนักเรียนรายที่ 2

เด็ก 16 ไม่ได้เป็นแค่พยาน แต่เป็นผู้เสียหายด้วย! ตำรวจ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร เร่งรวบรวมหลักฐาน ออกหมายเรียกกลุ่มครูหื่น รุมโทรมนักเรียน เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่ม

จากเหตุการณ์สุดสลดครู 5 ศิษย์เก่า 2 คน รุมโทรมเด็กหญิงวัย 14 ปี และ 16 ปี พร้อมทั้งมีการอัดคลิปข่มขู่เด็ก และขู่ว่าจะไม่ให้เลื่อนชั้นเรียน นั้น

วันนี้ (11 พ.ค.63) พ.ต.ท.ปรีชา ครองยุติ สว.(สอบสวน) สภ.ผึ่งแดด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการสืบสวนสอบทำให้ทราบว่า เด็กอายุ 16 ปี ไม่ได้เป็นเพียงพยานรู้เห็นเหตุการณ์แค่นั้น แต่เป็นผู้เสียหายด้วย หลังมีการสอบปากคำได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า วันที่ 17 ม.ค.63 นายวิพจน์ แสนสุข และนายอานุภาพ บรรจงได้นัด ด.ญ.อายุ 14 ปี และเด็กอายุ 16 ปี มาพบที่บ้านพักครูของนายวิพจน์ จากนั้นนายวิพจน์ ก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.อายุ 14 ปี และนายอานุภาพ ได้กระทำชำเรา เด็กอายุ 16 ปี ในห้องเดียวกัน

ระหว่างนั้นนายวิพจน์ และนายอานุภาพ ยังได้มีการสลับคู่กัน และมีนายยุทธนาอีกคนเข้ามาร่วมด้วย

ภาพจากอีจัน
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว พนักงานสอบสวนเห็นว่าในส่วนของ เด็กอายุ 16 ปี นอกจากจะเป็นพยานในคดี เด็กอายุ 14 ปี แล้ว ยังเป็นผู้เสียหายอีกด้วย โดยเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ต้องแยกเป็นอีกหนึ่งคดีต่างจากคดี เด็กอายุ 14 ปี จึงได้ให้ เด็กอายุ 16 ปี แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายวิพจน์ แสนสุข,นายอานุภาพ บรรจง และนายยุทธนา ภู่ถนนนอก ในข้อหา “ร่วมข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร”

โดยพนักงานสอบสวนได้รับเป็นคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบรัดกุม เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคนและขอหมายจับต่อไป กรณีที่ยื่นถอนประกัน ถ้าหากผู้ต้องหามีการข่มขู่หรือคุกคาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องเสนอต่อศาลเสนอถอนประกันได้ทันที

ส่วนข้อหาค้ามนุษย์นั้น ยังไม่เข้าเกณฑ์ แต่ถ้ามีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที

ภาพจากอีจัน
ส่วนคดีของ เด็กอายุ 16 ปี เหยื่อรายที่ 2 ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. ผึ่งแดด ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา สำนวนแยกเป็น 2 คดี เนื่องจากเป็นพยานในคดีน้องอายุ 14 ปี และเป็นผู้เสียหายด้วย และทางตำรวจจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป
ภาพจากอีจัน
ด้านนางสาวศิริกาญจน์ คล่องดี นักพัฒนาการเด็ก พูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า บ้านพักเด็กรับน้องอายุ 16 ปี มาดูแลในบ้าน ทำให้เด็กอยู่สบาย และจะถามเรื่องเรียนว่าเขาอยากเรียนต่อไหม เพราะมีหน่วยงานในสังกัดที่สามารถส่งเด็กเข้าไปเรียนได้ ถ้าเกิดว่าทางครอบครัวดูแลได้ก็จะส่งไปอยู่กับครอบครัว และต้องประเมินด้วยว่า อยู่แบบไหน ถ้าเด็กไม่ประสงค์จะเรียน เราไม่สามารถบังคับเขาได้ และจะมีนักจิตวิทยาประเมินก่อน ส่วนฐานะทางบ้านของน้อง เท่าที่ดูฐานะยากจนก็ไม่เชิง แต่ว่าเป็นครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกทางกัน ครอบครัวน้องมีตายายและหลาน เข้ามายังไม่ได้พูดคุยกับน้องเลย

แต่ในเบื้องต้น น้องอายุ 16 ปี ก็วิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดี ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง น้องก็ดูข่าวในทีวี เจ้าหน้าที่ก็บอกตลอดว่าไม่ต้องกังวล เราอยู่ของเราให้สบาย แต่เรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ