กรณีที่โลกออนไลน์แห่แชร์เรื่องราวของน้องอาร์ม หรือ ด.ช.อนุวัฒน์ เงินมาบุญช่วย อายุ 14 ปี ต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาขายนมเปรี้ยว เพื่อเป็นรายได้เลี้ยงดูยายอายุ 59 ปี และน้องสาวอายุ 10 ขวบ ที่พิการซ้ำซ้อน จนหลายคนต่างชื่นชม แต่ก็มีบางรายที่เกิดความคนสงสาร และตั้งคำถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ทำไมถึงปล่อยให้เด็กอายุแค่นี้ดิ้นรนตามลำพัง โดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆ
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ (22 ก.ย. 63) สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ หน่วยงานปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ น้องอาร์ม ณ บ้านไม่มีเลขที่ หมู่7 ตำบลบางม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ พบว่าบ้านของน้องอาร์ม เป็นบ้านสองชั้น สภาพค่อนข้างทรุดโทรมและสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านไม่ค่อยดี โดยบ้านน้องอาร์มตั้งอยู่ในไร่ผักชี ห่างจากถนนหมู่บ้านประมาณ 300 เมตร และอยู่กันเพียง 3 คน คือ ยายและหลาน 2 เท่านั้น ส่วนแม่แท้ๆ ของน้องอาร์มไปมีครอบครัวใหม่อยู่ที่กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามพูดคุย ว่ามีการจ้างน้องอาร์มซึ่งยังเป็นเยาวชนในการทำงานหรือไม่ ทราบว่านายจ้างไม่ได้มีการจ้างงานน้องอาร์ม เพียงแต่เพื่อนบ้านของน้องอาร์มที่เป็นพนักงานขายนมเปรี้ยวเกิดความสงสาร จึงชวนน้องอาร์มไปช่วยขายนมเปรี้ยวเพื่อให้น้องอาร์มมีรายได้ดูแลครอบครัวเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางม่วง ยังให้ข้อมูลว่า ครอบครัวนี้ทางปกครองท้องถิ่น หน่วยงานสงเคราะห์ต่างๆ ก็ให้ความช่วยเหลือมาก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากยายไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างได้ เพราะต้องเลี้ยงหลานที่พิการ โดยมีรายได้มากจากเบี้ยคนพิการเท่านั้น ส่วนน้องอาร์มก็เพิ่งจบชั้น ป.6 และไม่ได้เรียนต่อ เพราะฐานะที่บ้านยากจน
ล่าสุด ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ เตรียมประสาน กศน.นครสวรรค์ เพื่อให้น้องอาร์มได้เรียนต่อ
ส่วนน้องสาวของน้องอาร์ม อยู่ในระหว่างเตรียมทำหลักฐานในการยินยอมของผู้ปกครอง เพื่อส่งน้องเข้าประชาสงเคราะห์กรุงเทพมหานคร เพื่อให้การเลี้ยงดูให้มีความเหมาะสมต่อไป