เมื่อวานนี้(6 ต.ค. 63) เวลา 21.30 น. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ที่รับเป็นที่ปรึกษาโรงเรียนเครือสารสาสน์ เดินทางพร้อมนำเอกสารแถลงการณ์ของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ชี้แจงกับสื่อมวลชนที่ สภ.ชัยพฤกษ์ หลังได้รับแจ้งว่า น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือพี่เลี้ยงจุ๋ม จะเข้ามาถอนแจ้งความเอาผิดกับผู้ปกครองรายหนึ่งที่ทำร้าย หลังพบคลิปลูกถูกพี่เลี้ยงจุ๋มทำร้ายร่างกาย
ทนายเดชา กล่าวว่า หลังจากที่ตนเข้าไปประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารของโรงเรียนในเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ปกครอง ที่ลูกถูกครูและพี่เลี้ยงทำร้าย และได้รับแจ้งจากพี่เลี้ยงจุ๋มว่าให้ช่วยพามาถอนแจ้งความในเวลา 20.00 น. แต่เมื่อตนเดินทางมาถึงที่ สภ.ชัยพฤกษ์ พยายามติดต่อทางโทรศัพท์กับพี่เลี้ยงจุ๋มต่อหน้าสื่อ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงอ้างว่ากำลังเดินทางกลับจากจังหวัดอ่างทอง ไม่มีรถมาที่ สภ.ชัยพฤกษ์ และ รู้สึกเครียด ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าพี่เลี้ยงจุ๋ม เป็นจริงตามที่อ้างหรือเปล่า แต่ไม่ใช่ปัญหาถ้าเขาจะมาถอนแจ้งความเวลาไหนเขาก็สามารถเข้ามาถอนได้ ไม่จำเป็นต้องมีตนมาด้วย ส่วนการดำเนินคดีนั้นก็เป็นเรื่องของทางพนักงานสอบสวน จะดำเนินคดีอย่างไร
ภาพจากอีจัน
ทนายเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ตนได้นำเอกสารในที่ประชุมของคณะผู้บริหารของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มาแจกให้กับสื่อด้วย เพื่อยืนยันว่าทางโรงเรียนพร้อมที่จะเยียวยาให้กับผู้ปกครองของเด็กที่ถูกครูและพี่เลี้ยงทำร้ายในห้องเรียน โดยไม่ได้มีการปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ เอกสารฉบับนี้ถือว่าเป็นเอกสารที่ออกจากทางโรงเรียน ส่วนเอกสารอื่นๆนั้นตนไม่ทราบว่ามาจากที่ใด เพราะตนไม่รู้เรื่องเอกสารดังกล่าวเลย 
ภาพจากอีจัน
สำหรับเอกสารแถลงการณ์มีอยู่ 3 หัวข้อหลัก คือ 1.การเข้ามาของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ นั้น เพื่อให้ความเห็นทางด้านกฎหมายเบื้องต้น เพื่อระงับข้อพิพาทและเยียวยาระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองเท่านั้น 2.โรงเรียนมิได้ต้องการต่อสู้กับผู้ปกครองหรือปฏิเสธความรับผิดชอบต่อนักเรียน และผู้ปกครองแต่ประการใด และยังคงยืนยันเจตนารมณ์ตามมาตรการบันทึกข้อตกลง ระหว่างโรงเรียนกับกระทรวงศึกษาธิการ ณ สำนักคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน วันที่ 30 กันยายน 2563 และโรงเรียนจะแจ้งความคืบหน้าการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวให้สาธารณชนทราบต่อไป 3.โรงเรียนขอปฏิเสธข่าวการบังคับให้ น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือพี่เลี้ยงจุ๋ม แจ้งความต่อผู้ปกครองและไม่เคยมีเจตนาดังที่ถูกกล่าวอ้าง พร้อมกับขอสงวนสิทธิ์ดำเนินคดี หากสอบสวนแล้วพบว่า น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง ให้ข้อมูลบิดเบือน