เปิดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหวย 30 ล้าน

คดีหวย 30 ล้าน เปิดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 7 พิพากษายืนยกฟ้อง ลุงจรูญ ข้อหายักยอกทรัพย์และรับของโจร

กรณีหวย 30 ล้าน ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ ยื่นฟ้องในข้อหายักยอกทรัพย์และรับของโจร ซึ่งต่อมา ครูปรีชา ได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อนั้น

ภาพจากอีจัน

เปิดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 7 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง ลุงจรูญ

ภาพจากอีจัน


แม้จะฟังได้ตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่านางสาวรัตนาพร ได้คัดเลือกแบ่งแยกสลากกินแบ่งรัฐบาล ชุดที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง ตามสำเนาเอกสารหมาย จ.1 ไว้มอบให้โจทก์แล้ว แต่เมื่อยังไม่เป็นที่ตกลงกันว่า ตกลงซื้อขายกันในราคาเท่าใดให้เป็นที่แน่ชัด ข้อตกลงระหว่างโจทก์และนางสาวรัตนาพร ดังกล่าว จึงยังไม่อาจเกิดเป็นสัญญาซื้อขายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 453 ได้

กรรมสิทธิ์ในสลากกินแบ่งรัฐบาลที่โจทก์อ้างว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ชุดที่ถูกรางวัลที่หนึ่งตามสำเนาเอกสารหมาย จ.1 จึงยังไม่ตกเป็นของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 ที่ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์มิใช่เจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

มีปัญหาข้อกฎหมายตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการสุดท้ายว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยนอกฟ้อง นอกประเด็นหรือไม่ โจทก์อุทธรณ์ว่าที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 533726 รวม 5 ฉบับ จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยมิได้หยิบยกปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย ด้วยเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นนั้น เห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 28 บัญญัติว่า "บุคคลผู้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาล ได้แก่ พนักงานอัยการและผู้เสียหาย" และมาตรา 2 (4) จำกัดความคำว่า "ผู้เสียหาย" หมายถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดอาญาฐานใดฐานหนึ่ง

การที่โจทก์ซึ่งเป็นราษฎรดำเนินคดีแก่จำเลยเป็นคดีนี้เอง โดยฟ้องจำเลยต่อศาลชั้นต้นในข้อหายักยอกทรัพย์สินหาย หรือรับของโจร ในเบื้องต้นจึงต้องพิจารณาก่อนว่า โจทก์เป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายในความผิดทั้งสองฐานดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่

หากฟังได้ว่าโจทก์เป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายแล้ว ศาลจึงจะหยิบยกปัญหาต่อไปว่าจำเลยกระทำความผิดทั้งสองข้อหาดังกล่าวหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นลำดับต่อไป

แต่ถ้าศาลพิจารณาแล้วฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหาย ในความผิดทั้งสองข้อหาดังกล่าว

โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้โดยอาศัยเหตุดังกล่าวโดยไม่ต้องพิจารณาปัญหาต่อไปว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่

เพราะเมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเสียแล้ว การดำเนินคดีของโจทก์ในการนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ความผิดจำเลยจึงเป็นการดำเนินคดีของบุคคล
ผู้ไม่มีอำนาจตามกฏหมาย ย่อมไม่ก่อให้เกิดผลใดใดตามกฎหมาย

ที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 533726 รวม 5 ฉบับ จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่นั้น จึงเป็นการพิจารณาพิพากษาคดีที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่ใช่เรื่องนอกฟ้องนอกประเด็นตามที่โจทก์อุทธรณ์

อุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

พิพากษายืน.