ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.63) คู่สำคัญอยู่ที่ ลีดด์ ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา เปิดบ้านต้อนรับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งหากเลสเตอร์เก็บ 3 แต้มได้ จะขึ้นรองจ่าฝูงทันที
แต่การจะมาเก็บ 3 แต้มออกจากบ้าน ลีดด์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะผลงานที่ผ่านมา ลีดด์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงพอสมควร ตั้งแต่นัดเปิดสนามที่สู้กับทีมแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล สุดมัน ก่อนพ่ายไป 4-3 ประตู และนัดล่าสุดก็เพิ่งบุกไปชนะแอสตัน วิลล่า 0-3 ประตู
นัดนี้ เลสเตอร์จัดชุดใหญ่ หวังเก็บ 3 แต้มให้ได้ เปิดเกมส์ได้เพียง 2 นาที จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ยิงประตูขึ้นนำก่อน 0-1 หลัง เจมี่ วาร์ดี้ ฉกบอล ก่อนไหลให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ยิงบอลเข้าประตูไป จากนั้น นาทีที่ 21 เจมี่ วาร์ดี้ โหม่งติดเซฟ ยูริ ติเลอม็องต์ ตามซ้ำ เลสเตอร์นำห่าง 0-2 หลังจากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-2
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
เริ่มครึ่งหลังเพียง 3 นาที สจวร์ตต์ ดัลลัส ก็ยิงให้ทีมเจ้าบ้าน ลีดด์ ตามมา 1-2 หลังจากนั้น เลสเตอร์ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งนาทีที่ 76 เจมี่ วาร์ดี้ ยิงให้ทีมเยือนนำห่างออกไปอีก 1-3 ซึ่งน่าจะจบเกมส์ที่สกอร์นี้ แต่นาทีสุดท้าย เลสเตอร์ทีมเยือนก็มาได้ลูกโทษ ก่อน ยูริ ติเลอม็องต์ ยิงจุดโทษตอกย้ำชัยชนะให้เลสเตอร์
ภาพจากอีจัน
จบเกมส์ เลสเตอร์ บุก เอาชนะลีดด์ ยูไนเต็ด 1-4 เจมี่ วาร์ดี้ คว้าแมนออฟเดอะแมต และที่สำคัญทีมจิ้งจอกสยามขึ้นรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก 7 นัดมี 15 คะแนน ตามหลังทีมจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน