Grab แจงแล้ว! หลัง ผู้ติดเชื้อ โควิด ที่เชียงใหม่ หลัง เรียกใช้บริการรถ

Grab ยืนยัน ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย หลัง ผู้ติดเชื้อ โควิด รายล่าสุดที่เชียงใหม่ หลัง เรียกใช้บริการรถ ผ่านแอปพลิเคชัน Grab



จากกรณีที่มีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อ โควิด รายล่าสุดที่เชียงใหม่ หลัง เรียก ใช้บริการรถ ผ่านแอปพลิเคชัน Grab นั้น


ล่าสุด (29 พ.ย. 2563) Grab ประเทศไทย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงสิ่งที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการในทันทีภายหลังรับทราบข้อมูล โดยระบุว่า

1.บริษัทฯ ได้ติดต่อประสานงานกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2563 โดยให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลังเพื่อระบุตัวตนของพาร์ทเนอร์คนขับ รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว
2.ขณะนี้พาร์ทเนอร์คนขับที่ได้ให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว ได้รับการติดต่อจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้ารับการตรวจเชื้อ โควิด ในโรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการแล้ว ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการระงับสัญญาณการให้บริการเป็นการชั่วคราวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
3.ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ กรมอนามัย นำหลักปฏิบัติและมาตรการต่างๆ ของ กระทรวงสาธารณสุข มาใช้เป็นแนวทางในการดูแลสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์คนขับ ทั้งยังส่งเสริมให้ทั้งพาร์ทเนอร์คนขับและผู้โดยสารสวมหน้ากากทุกครั้งในระหว่างการเดินทาง โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ หากผู้โดยสารพบว่าพาร์ทเนอร์คนขับ “ไม่สวมหน้ากาก” หรือ “มีอาการป่วยหรือไม่สบาย” สามารถยกเลิกบริการได้ทันที โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิก ในขณะเดียวกันพาร์ทเนอร์คนขับก็สามารถยกเลิกการรับงานได้เช่นกันหากพบว่าผู้โดยสารไม่สวมหน้ากากหรือมีอาการป่วย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทั้งสองฝ่าย
4.บริษัทฯ ยังคงให้บริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Grab ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น บริการเรียกรถ บริการจัดส่งอาหาร (GrabFood) บริการจัดส่งสินค้าและพัสดุ (GrabExpress) ตลอดจนบริการทางการเงิน และระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์

ภาพจากอีจัน


ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ให้ความสำคัญสูงสุดกับสุขภาพและความปลอดภัยพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ผู้ใช้บริการ ตลอดจนพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจ โดยนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด โควิด ในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและได้ประกาศใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด โควิด ทั้งยังได้ประสานความร่วมมือกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการรับมือการแพร่ระบาดของ โควิด มาโดยตลอด อาทิ

-การแจกหน้ากากอนามัยและเจลฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ
-การร่วมมือกับสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค จัดกิจกรรมตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุกสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ
-การพัฒนาระบบคัดกรองด้านสุขภาพและสุขอนามัยผ่านแอปพลิเคชัน โดยให้พาร์ทเนอร์คนขับทุกคนต้องประเมินเพื่อยืนยันว่าไม่มีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 รวมถึงต้องปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยที่แกร็บกำหนดอย่างเคร่งครัดก่อนการให้บริการในทุกวัน
-การให้พาร์ทเนอร์คนขับถ่ายภาพเซลฟี่ของตนเองขณะสวมใส่หน้ากาก พร้อมอัปโหลดภาพผ่านระบบเพื่อยืนยันก่อนการรับงาน
-การประกาศใช้มาตรการจัดส่งอาหาร-พัสดุแบบไร้การสัมผัส รวมถึงการกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการหันมาชำระค่าใช้บริการโดยหลีกเลี่ยงการใช้เงินสด