กู้ภัยชัยนาท เล่านาที ช่วยเหลือน้องบอส 5 ขวบ สู้มะเร็งระยะสุดท้าย!

ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำหัวใจเอ่อไปด้วยน้ำตา! กู้ภัยชัยนาท เล่าวินาทีช่วยน้องบอส เด็กชาย 5 ขวบ ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย แบบไม่มีข้อแม้ เพราะเหตุผลเดียว

เรื่องราวแสนบีบหัวใจ เมื่อความเจ็บป่วยไม่เลือกคน ไม่สนทุกข์
น้องบอส เด็กชายวัยเพียง 5 ขวบ ป่วยมะเร็งต่อมหมวกไตระยะสุดท้าย!
แค่ประโยคนี้ก็ทำหลายคนช้ำไปในหัวใจมากเหลือเกิน แต่ความช้ำใจนี้จะยิ่งกรีดลึกลงไปถ้าทุกคนได้ทราบความทุกข์ที่กำลังถาโถมในชีวิตของเด็กวัยเพียง 5 ขวบ

ภาพจากอีจัน
เรื่องราวสุดเศร้านี้ถูกเผยแพร่จากกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูท่านหนึ่ง ที่โพสต์ภาพน้องบอสขณะที่นอนอยู่บนเตียง เตรียมตัวกลับบ้าน เขาเผยแพร่เรื่องราวสุดเศร้าให้กับสังคมรู้ว่า เด็กน้อยคนนี้กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง ขณะนั้นครอบครัวน้องจะพาน้องกลับจากโรงพยาบาลไปที่บ้าน จึงได้เรียกใช้รถตู้กู้ภัย แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอากู้ภัย น้ำตาไหลและช่วยเหลือครอบครัวน้องโดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ และขอเป็นสะพานบุญเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาของน้อง เพราะครอบครัวของน้องลำบากกันมากจริงๆ
ภาพจากอีจัน
อีจันได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่นิพล ปัญญาทร เจ้าของโพสต์ดังกล่าว พี่นิพล เป็นหนึ่งในทีมกู้ภัยที่ช่วยเหลือน้องบอสและครอบครัว พี่นิพลเล่าว่า ตนได้รับสายจากเพื่อนกู้ภัยเรื่องการขอใช้รถตู้ในการขนย้ายผู้ป่วย ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าเป็นเคสไหนหรือคนป่วยเป็นใคร ปกติแล้วกู้ภัยจะช่วยเหลือทุกเคสอย่างเต็มที่ และอาจมีค่าตอบแทนค่าเสียเวลาและค่าน้ำมัน แล้วแต่ครอบครัวผู้ป่วยจะให้ แต่ความคุ้นชินและผลตอบแทนถูกลบออกไป โดยไม่ถามถึงเหตุผลใดๆ หลังจากที่ได้เห็นภาพจากทีมกู้ภัยที่ส่งมา พร้อมเสียงเล่าว่า “พี่ครับ เราไม่ต้องเก็บค่าน้ำมันเขาแล้ว ผมเห็นแล้วสงสารมากๆ ผมมีอะไรที่จะช่วยเขาได้ไหม” เสียงกู้ภัยที่ส่งออกมาจากหัวใจ เพื่อบอกว่าเคสที่เขากำลังช่วยอยู่นี้ สาหัสเหลือเกินทั้งร่างกายและหัวใจ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
วินาทีที่เห็นภาพพร้อมกับจบประโยคเล่าความทุกข์ พี่นิพลน้ำตาคลอออกมาอย่างไม่อาย “ผมทำงานกู้ภัยมาผ่านภาพความเป็นความตายมามากมาย แต่เคสนี้มันช่างบีบหัวใจมากๆ ทำไมเด็กตัวเท่านี้ต้องมาเจอความเจ็บปวดทั้งกายใจขนาดนี้” วินาทีนั้นพี่นิพลตัดสินใจโพสต์เรื่องราวของน้องลงเฟซบุ๊ก เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของน้องบอสให้มากที่สุด 
ภาพจากอีจัน

“เงินที่เขาบริจาคมาเพียงพอแล้วค่ะ ไม่ต้องการแล้ว เงินทองมากมายแค่ไหน ก็ไม่จำเป็น เพราะแม่ไม่รู้ว่าลูกแม่จะต้องรักษาอีกนานแค่ไหนสิ่งเดียวที่ต้องการตอนนี้คือลูก“
ประโยคที่แสนเศร้า เป็นความจริงที่แสนเจ็บปวด หมอบอกกับแม่ว่า น้องบอสจะอยู่ได้อีกประมาณ 3 เดือน ซึ่งหลังจากที่หมอบอกวันนั้น ก็ผ่านมากว่า 2 เดือนเศษแล้ว นั่นหมายความว่าเวลาอีกแค่ 1 เดือนนี้ คือช่วงเวลาที่มีค่าที่สุด


พี่นิพลเล่าอีกว่า กู้ภัยไม่ใช่แค่ไปส่งน้องและครอบครัวแล้วกลับ แต่ยังเทียวไปเยี่ยมและให้กำลังใจน้องบอสและครอบครัวอยู่เรื่อยๆ
และเหตุการณ์ที่ทำให้กู้ภัยสะเทือนใจที่สุดคือ ตอนนี้น้องอ่อนเพลียจากการรักษามากๆ ไม่มีแรงเดิน ไม่พูดไม่ร่าเริง ข้าวก็กินไม่ค่อยได้ น้ำก็กินได้น้อย กู้ภัยจับมือน้องบอสขึ้นมา พร้อมกับพูดให้กำลังใจ “มาเร็ว ลุกขึ้นมากินข้าวหน่อยเร็วคนเก่ง จะได้มีแรงสู้ สู้ไหมครับ” หลังจากจบคำถามเด็กน้อยไร้เดียงสาพยักหน้ารับ พร้อมกับยอมกินข้าว ซึ่งก่อนหน้านี้น้องบอสกินแทบไม่ได้เลย นั่นหมายความว่าเขากำลังสู้ สู้อยู่จริงๆ ภาพที่เห็นทำให้ทีมกู้ภัยบอกกับตัวเองว่า จะขอทำให้น้องอย่างเต็มที่

จันฟังแล้วอยากเดินไปหาน้องซะตอนนี้ อยากไปให้กำลังใจน้อง อยากให้กำลังใจครอบครัวน้อง แต่กลัวรบกวนเวลาพักผ่อนน้อง ซึ่งตอนนี้ทางเรากำลังติดต่อคุณแม่น้องเพื่อหาเวลาที่สะดวก อยากไปทำให้น้องและแม่มีความสุขอีกครั้ง
ส่งใจกอดใจ ต้องบอสสู้อีจันสู้