คอนโดดัง ย่านสาทร – ท่าพระ ประกาศแจ้ง หลังพบผู้พักอาศัย ติดเชื้อ โควิด

คอนโดดัง ย่านสาทร – ท่าพระ แจงกรณีผู้พักอาศัยติด โควิด ล่าสุดพ่นยาฆ่าเชื้อ ขอความร่วมมือลูกบ้านสังเกตอาการ

หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดว่า พบผู้ป่วย โควิด ในคอนโด ย่านสาทร-ท่าพระ

ล่าสุด (11 ธันวาคม 2563) ฝ่ายบริหารจัดการ นิติบุคคลอาคารชุด คอนโดย่าน สาทร-ท่าพระ ได้ออกประกาศ ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า

ตามที่เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เข้าพบฝ่ายบริหารจัดการฯ แจ้งว่า เจ้าของร่วมภายในโครงการ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ได้รับการยืนยันผลการ ติดเชื้อ โควิด เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 ขณะนี้ผู้ติดเชื้อพักรักษาตัวที่โรพยาบาลเรียบร้อย และแนะนำให้รณรงค์การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารจัดการฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลการดินทาง ภายในอาคารชุด จากระบบกล้องวงจรปิด CCTV และการใช้ระบบคีย์การ์ดย้อนหลัง 10 วัน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1-10 ธันวาคม 2563 พบว่า ผู้ติดเชื้อเดินทางผ่าน โถงต้อนรับ Lobby A ลิฟต์โดยสาร และเคาน์เตอร์รับพัสดุ

ขณะนี้ ทราบว่ามีผู้พักอาศัยร่วมซึ่งอยู่ในห้องชุดเดียวกันได้ไปกักตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อยเช่นกัน

จากสถานการณ์ดังกล่าว ฝ่ายบริหารจัดการฯ มีมาตรการลดความเสี่ยง และป้องกันการแพร่ระบาดภายในโครงการเร่งด่วนแล้ว ดังนี้

1. งดการให้บริการใช้พื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 7 (Facility) ประกาศเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563
2. ฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัส โควิด วันที่ 11 ธันวาคม 2563 เวลา 14:00 น. พื้นที่บริเวณโถง Lobby A
โถง Lobby B, ห้องนิติบุคคลอาคารชุด, โถงสันทนาการ, ห้องจดหมาย, ทางเดินส่วนกลาง ชั้น 15, ลิฟต์โดยสาร, โถงลิฟต์ A และโถงลิฟต์ B
3. ทำความสะอาดจุดสัมผัส บริเวณภายในลิฟต์ โถงชั้นจอดรถ โถง Lobby และบริเวณพื้นทางเดินชั้น 15 ทั้งหมด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
4. วัดอุณหภูมิพนักงานนิติ รปภ. แม่บ้าน และคนสวนทุกคน ไม่พบมีอุณหภูมิสูงและมีอาการทางกายภาพแต่อย่างใด

ภาพจากอีจัน



ทางคอนโด ได้ขอความร่วมมือเจ้าของร่วมและผู้พักอาศัย ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ณ บริเวณ Lobby รวมถึงสังเกตอาการตนเองต่อเนื่อง 14 วัน หากพบว่ามีไข้ ไอ เจ็บคอ เหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ขอให้พบแพทย์ และ แจ้งให้ฝ่ายบริหารจัดการฯ ทราบทันที

ด้าน กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ผู้ป่วย โควิด ในคอนโดดังกล่าว เป็นผู้ป่วยรายที่ 6 กลุ่มเดียวกับบุคลากรทางการแพทย์ โดยเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่รับเชื้อจากผู้ป่วยรายที่ 1 มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะแพร่เชื้อ และคอนโด ได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อแล้ว