ผบช.ปส. เผย เร่งหาต้นตอแหล่งผลิต เคนมผง ชี้ เสพเพียงครั้งเดียวอาจถึงตาย

จากกรณีข่าวพบหนุ่มสาวนักเสพดับปริศนา จำนวน 7 ราย คาดมาจากพิษเสพยา “ เคนมผง “

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สาวพีอาร์เสพยา 3 ขนาน ช็อกดับคาห้อง ขณะเดียวกันพบวัยรุ่นอีก 5-6 ราย เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ

ล่าสุดวันนี้ (11 ม.ค. 64) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. เผยว่า เคนมผง เป็นการผสมสารเสพติดหลายตัวเข้าด้วยกัน เช่น เฮโรอีน เคตามีน ไอซ์ ยากล่อมประสาท (ยานอนหลับ) ซึ่งยากล่อมประสาทนี้มีขายตามร้านขายยา แต่ต้องใช้ใบแพทย์สั่งซื้อ โดยยาตัวนี้เป็นยาประเภท 4 ลำดับที่ 11 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการผสมสารต่างๆ จนเป็นเคนมผง เชื่อว่า “ กลุ่มนักเสพทำขึ้นมาเอง “ เพราะอาจจะต้องการเพิ่มฤทธิ์ของยา และนักเสพเคนมผง น่าจะเป็นนักเสพยาที่เสพประจำ

สำหรับฤทธิ์ของการเสพเคนมผง ผู้เสพจะมีอาการมึนเมาเหมือนคนเมาเหล้าแต่จะไม่มีกลิ่นสุรา และจะมีอาการสะลึมสะลือ โดยอาการที่อันตรายที่สุดคืออาการปากเขียวคล้ำ และมีเลือดออกทางจมูก เนื่องจากอาการดังกล่าว แปลว่าผู้เสพมีอาการเสพยาเกินขนาดจนร่างกายไม่สามารถรับได้ หรือน็อคยา หากพบอาการดังกล่าวให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ยาเสพติดประเภทดังกล่าวหากเสพเพียงครั้งเดียวก็อาจถึงแก่ชีวิตได้ เพราะเป็นยาที่มีขนาดค่อนข้างรุนแรง

ส่วนต้นตอของผู้ที่คิดสูตรเคนมผงนี้ ยังไม่ทราบว่าเกิดมาจากที่ไหน แหล่งใด ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยทาง ป.ป.ส. จะส่งสารเคนมผงให้กับนักวิทยาศาสตร์ และ อย. ตรวจสารอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่า จากข้อมูลสถิติการจับกุมยาเสพติด ตั้งแต่ปี 61-63 พบว่า มีคดีที่นำยาเคมาผสมกับตัวยาอื่น มีกว่า 44 คดี เช่น นำยาเคมาผสมไอซ์ , เคผสมโคเคน , เคผสมยาอี , ผสมสารอื่นๆ เป็นต้น แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีการผสมมาก 2 สาร โดยผู้เสพอาจจะเกิดการช็อก หากเสพเกินขนาด ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นขณะนี้ได้ประสานงานกับ บก.น.5 ให้เอาตัวอย่างยาที่ สน.วัดพระยาไกร มาตรวจพิสูจน์ในบ่ายวันนี้ (11 ม.ค. 64) ซึ่งคาดว่าจะได้ผลตรวจสอบเร็วๆ นี้