ดราม่าติดเทรนด์ทวิตฯ #ไฟเซอร์นักเรียน กับบางคนที่ไม่อยากฉีด

#ไฟเซอร์นักเรียน ร้อนระอุติดเทรนด์ทวิตเตอร์! หลังเปิดคิกออฟ เริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียน อายุ 12-18 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเทอมในเดือน พ.ย. 64 นี้ แต่เพิ่งเริ่มได้แค่ 4 วัน ก็เกิดดราม่า 2 ประเด็นใหญ่ๆ ระหว่าง คนที่ได้ฉีดไม่ยอมฉีด กับ คนที่อยากฉีดไม่ได้ฉีด

ประเด็นแรก คนที่ได้ฉีดไม่ยอมฉีด ซึ่งกระแสนี้มาจากเด็กนักเรียนที่เล่น TikTok เป็นส่วนใหญ่ หลังจากมีคนนำข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้วบอกว่าจะเกิดการกลายพันธุ์ หรือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทำให้เด็กนักเรียนและผู้ปกครองบางคนเชื่อและเข้าใจไปตามนั้น จนถึงขั้นไม่รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ตามที่มีการจัดหาให้

ประเด็นที่สอง คนที่อยากฉีดไม่ได้ฉีด นั่นหมายถึงกลุ่มนักเรียนที่มีอายุ 18 ปี รวมไปถึงกลุ่มนักศึกษา ที่ตอนนี้ก็อยากจะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เหมือนกัน เพราะอยากจะกลับไปเรียนหนังสือแล้ว ส่วนนักเรียนอายุ 18 ปีนั้น กระแสเริ่มมาจาก มีนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร เผยภาพแชทที่คุณครูถามกับเด็ก ม.6 ว่ามีใครจะสละสิทธิ์ฉีดไฟเซอร์ก่อนไหม เนื่องจากวัคซีนขาด จัดสรรมาไม่ทัน ทำให้นักเรียนรู้สึกว่า ทำไมไม่เห็นหัว ม.6 เลย

ซึ่งข้อสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนไฟเซอร์ที่จะนำมาฉีดให้เด็กนั้นเคยถูกหยิบยกมาพูดถึงหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็มีการแนะนำจาก ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ที่นำข้อมูลวิจัยจากต่างประเทศมาประกอบคำแนะนำให้กับเด็กในประเทศไทย

ขณะที่ นพ.จิรภัทร สำลีอ่อน หรือที่คนใน TikTok เรียกกันว่า พี่หมอมาวิน ก็ได้ทำคลิปตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนไฟเซอร์ให้น้องๆใน TikTok ได้เข้าใจและคลายกังวลด้วย

โดยพี่หมอมาวิน บอกไว้ว่า… “การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 12-18 ปี ช่วงนี้มีคอมเมนต์ใน TikTok ว่าเด็กสามารถฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้หรือเปล่า ตามประกาศฉบับวันที่ 7 ก.ย. 64 ของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำให้เด็กอายุตั้งแต่ 12 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี สามารถฉีดวัคซีนได้ ซึ่งวัคซีนที่รับรองในการฉีดในวัยรุ่นและเด็กตอนนี้มีเพียง 1 ชนิด ก็คือไฟเซอร์ สำหรับเด็กวัยรุ่นก็คือายุตั้งแต่ 16 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี แนะนำให้ฉีดได้ทุกราย สามารถฉีดได้ทุกรายหากไม่มีข้อห้าม ทั้งคนที่ปกติและคนที่มีโรคประจำตัว สำหรับเด็กอายุ 12 ปี จนถึงน้อยกว่า 16 ปี แนะนำให้ฉีดในกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ดังนี้ โรคอ้วน, โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคมะเร็งและภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคเบาหวาน, โรคพันธุ์กรรมและบกพร่องทางระบบประสาทและพัฒนาการช้า แล้วฉีดไฟเซอร์ในเด็กมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง งานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกามีรายงานไว้ว่า อาจจะเกิดความเสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะพบบ่อยกว่าในเด็กอายุน้อยมากกว่าเด็กโต และมักพบในเด็กผู้ชายที่ฉีดโดสที่ 2 แล้ว แต่จากสถิติเด็กอายุ 12-17 ปี ในสหรัฐฯ จะมีคนเกิดผลข้างเคียง 60 คนใน 1 ล้านคน ที่ได้รับการฉีดไฟเซอร์”