นายอำเภอขลุง เปิดใจกับอีจัน ห่วงยายและลูกชาย เงินบริจาคทะลัก 6 ล้าน หวั่นถูกตัดสิทธิ์ เราชนะ

น้ำใจโซเชียลเปลี่ยนชีวิต! นายอำเภอขลุง เปิดใจกับอีจัน ห่วงยายและลูกชาย เงินบริจาคทะลัก 6 ล้าน หวั่นถูกตัดสิทธิ์ เราชนะ

น้ำใจเปลี่ยนชีวิตจริงๆ จากคนที่ยากจนลำบากไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว กลายเป็นเศรษฐีมีเงินกว่า 6 ล้านภายในวันเดียว จากคลิปภาพยายนั่งป้อนข้าวลูกชายที่กำลังจะหมดแรง เพราะไปรอลงทะเบียนเราชนะตั้งแต่ตี 3 กว่า ที่กำแพงเพชรซึ่งเห็นแล้วเป็นภาพที่น่าสงสารและหดหู่อย่างมากกับชีวิตของคนจนที่ต้องดิ้นรนไปลงทะเบียนหวังเงินช่วยเหลือ

ล่าสุดวันนี้ 18 ก.พ.64 ทีมข่าวอีจัน ได้เดินทางไปดูความคืบหน้าที่บ้าน นางน้อย เอี่ยมสะอาด อายุ 81 ปี เป็นมารดาของ นายจำเนียร เอี่ยมสะอาด อายุ 62 ปี ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นบุคคลในคลิป

จากการสอบถามยายน้อยถึงวันที่ไปลงทะเบียนว่า ภาพที่ป้อนข้าวเกิดจากอะไร ยายน้อยเปิดเผยว่าตนกับลูกชายออกจากบ้านตอนดึก ไปถึงหน้าธนาคารเช้ามืดก็นั่งรอนอนรอได้คิวที่ 14 ในตอนที่รอธนาคารเปิดเห็นว่าลูกชายเหนื่อยและคงหิวกลัวจะเป็นลมจึงนำข้าวมาป้อนให้กิน หลังจากที่คลิปภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางผู้จัดการธนาคารเห็นจึงได้เลื่อนให้ยายได้เป็นคิวแรก และได้ลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าว่า ขอให้ยายสบายบ้างเถอะลำบากมานานแล้ว

ด้านนายจำเนียร เล่าว่าไปลงทะเบียนมา 2 วันแล้วแต่ไม่ทันวันที่ 3 จึงพาแม่ออกเดินทางจากบ้านตั้งแต่เที่ยงคืน โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ระยะทางจากบ้านไปถึงธนาคารประมาณ 30 กิโลจึงใช้เวลานานกว่าจะถึงก็เกือบตี 4 แล้ว จึงนั่งรอนอนรอกัน ช่วงที่ออกจากบ้านก็ห่อข้าวพร้อมไข่ทอดไป ตอนที่ถูกถ่ายคลิปก็รู้สึกหิวแต่กินไม่ลงเพราะต้องการลงทะเบียนให้ได้ก่อน แต่แม่เห็นว่าเหนื่อยกลัวจะเป็นลมจึงนำข้าวมาป้อนให้

ตอนที่แม่ป้อนข้าวรู้สึกซาบซึ้งจนนำตาไหล จำได้แม่ป้อนข้าวให้ครั้งสุดท้ายเมื่อตอนอยู่ ป.3.เมื่อกล่าวถึงตอนนี้ทั้งแม่ทั้งลูกต่างร้องไห้ โดยนายจำเนียรได้ก้มลงซบที่ตักแม่ ส่วนยายน้อยได้เช็ดน้ำตาให้ลูกชาย เป็นภาพที่น่าซาบซึ้งอย่างมาก

ขณะเดียวกันนายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง ได้เดินทางได้นำสิ่งของและเงินสดมามอบให้ด้วย พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตัวเลขเงินบริจาคในบัญชีของนายจำเนียรขณะนี้มีมากกว่า 6 ล้านบาทภายในวันเดียว ดังนั้นจึงเกรงว่าอาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเงินที่มากจำนวนนี้ จึงได้ปรึกษากับยายและลูกชายกับลูกสาวว่า จะจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาช่วยกันดูแลเงิน โดยทางอำเภอจะตั้งหัวหน้าสำนักงานปลัดและผู้ใหญ่บ้าน

มาเปิดบัญชีร่วมกับนายจำเนียรและนางเล็กน้องสาวนายจำเนียร ถ้าจะไปเบิกเงินต้องมีลงชื่อ 3 ใน 4 คน จึงจะเบิกเงินได้ และในเบื้องต้นมีมติของญาติและผู้นำชุมชนรวมทั้งชาวบ้านขอเก็บสมุดบัญชีกับบัตรเอที่เอ็มไว้ก่อนจนกว่าจะเปิดบัญชีธนาคารเล่มใหม่ได้

ส่วนของสิทธิ์ “เราชนะ” นายอำเภอคลองขลุง ก็มีความเป็นห่วง พร้อมกับเช็กธนาคาร ให้ว่า “สิทธิ์เราชนะ” จะถูกตัดไหม? ซึ่งคำตอบที่ได้คือ “ไม่ถูกตัดสิทธิ์” เพราะรัฐฯ ไม่นับเงินจำนวนนี้มาคิด เนื่องจากคุณยาย และคุณลุง ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว