หมอแล็บแพนด้าถึงกับตกใจ!
วัยรุ่นไทย หาทำกันอีกแล้ววววววว
วันนี้ (1 ธ.ค. 64) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หมอแล็บแพนด้า ได้หยิบยกเรื่องราวของชาวเน็ตคนหนึ่ง มาเตือนภัยวัยรุ่นไทย หลังเห็นชาวเน็ตรายนั้นโพสต์รูป “ยาแก้ไอ” พร้อมระบุข้อความว่า
“อันนคืออะไรคะ เห็นหลานสาวซื้อผสมกับน้ำ ดื่มทุกวัน วันไหนไม่กิน ไม่ได้”
โดยหมอแล็บแพนด้าได้อธิบายว่า ขวดยาในรูปนั้น เป็นยาแก้ไอที่ผสมโคเดอีน
ซึ่ง “โคเดอีน” มันจะมีฤทธิ์คล้ายกับ “มอร์ฟีน” ทำให้เกิดอาการเคลิ้ม มึนเมา ถูกจัดเป็นยาเสพติดประเภทหนึ่ง แต่ด้วยคุณสมบัติของโคเดอีนที่มีฤทธิ์ระงับอาการไอ ในทางการแพทย์จึงนำมาเป็นส่วนผสมที่สำคัญในการผลิตยาแก้ไอ
หมอแล็บแพนด้า ยังกล่าวอีกว่า
“วัยรุ่นไทยวัย ชอบเอายาแก้ไอที่ผสมสาร “โคเดอีน” มาผสมกับน้ำอัดลม น้ำหวาน หรือน้ำชาเขียว บางคนก็ใส่ยาตัวอื่นเข้าไปเพิ่ม พอดื่มแล้ว ฤทธิ์ของมันไม่ใช่แค่ทำให้มึนเมาน่ะสิครับ ถ้าดื่มเข้าไปมากๆ และต่อเนื่อง มีสิทธิ์จะทำให้เกิดการชัก เพ้อคลั่ง ชีพจรเต้นช้า หัวใจเต้นเร็ว ไม่รู้สึกตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบการหมุนเวียนภายในร่างกายล้มเหลว ระบบการหายใจเป็นอัมพาต มีโอกาสเสียชีวิตได้เลย”
หมอแล็บแพนด้าขอฝากข้อความเตือนผู้ปกครองทุกคน
“ถ้าเจอลูกหลานซื้อยาแก้ไอมากินหลายๆ ขวด ต้องสังเกตให้ดีนะครับ เจอแล้วให้รีบหยุดกินนะครับ มันเป็นการใช้ยาแบบผิดประเภท”
เกร็ดความรู้ “โคเดอีน”
นำสารเสพติด มาผลิตเป็นยาได้อย่างไร?
ปัจจุบันได้มีการขออนุญาตผลิตยาแก้ไอที่ผสมโคเดอีนหลายชื่อการค้าด้วยกัน มีทั้งชนิดน้ำและชนิดเม็ด โดยตำรับยาน้ำแก้ไอที่มีโคเดอีนเป็นส่วนผสม จะมีโคเดอีนเป็นส่วนประกอบ ประมาณ 9-10 มิลลิกรัม/ 5 มิลลิลิตร ให้รับประทานเพียงครั้งละ 5-10 มิลลิลิตร ส่วนตำรับยาแก้ไอที่มีโคเดอีนเป็นส่วนผสมชนิดเม็ด จะมีโคเดอีนเป็นส่วนประกอบ ประมาณ 10 มิลลิกรัม / เม็ด หรือแคปซูล
ขอบคุณข้อมูลจาก กองควบคุมวัตถุสารเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
คลิปแนะนำอีจัน
นึกว่า “งู” ดูๆ เป็น “ปลาไหล”