นาทีนี้ถ้าพูดชื่อ “ลุงพล” คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยิน เพราะเขาคนนี้เคยเป็นข่าวดัง กรณีตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็น “คนร้ายฆ่าน้องชมพู่” แต่หลังจากข่าวฉาวได้เพียงชั่วข้ามคืน ก็ผุดกลุ่มแฟนคลับลุงพล ซึ่งเชื่อว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำให้ต่อมามีทั้งชาวบ้านกกกอก ชาวมุกดาหาร หรือแม้แต่คนไทยจากทั่วประเทศ แห่ให้กำลังใจลุงพลอย่างล้นหลาม
ความจริงเรื่องมันควรจะหยุดอยู่แค่นั้น แล้วรอติดตามคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการหาตัวคนร้าย แต่กลับกลายเป็นว่าอยู่ๆ ลุงพล ก็กลายเป็นคนดังแบบงงๆ เมื่อมีผู้จัดชื่อดังเข้ามาพาลุงพลรับงานบันเทิง เดินแบบ พรีเซนเตอร์สินค้า งานโชว์ตัวต่างๆ ทั้งยังได้ร่วมงานกับศิลปินลูกทุ่งหญิงชื่อดังอย่าง “จินตรา พูนลาภ” ในผลงานเพลง เต่างอย พร้อมทั้งขึ้นเวทีร้องเพลงในงานบวงสรวงพญาเต่างอยที่ จ.สกลนคร ร่วมกับจินตราด้วย เท่านั้นยังไม่หมด! เมื่อมีผู้ประกอบการชื่อดังรายหนึ่งเล่นใหญ่ แห่ขบวนขันหมากไปสู่ขอลุงพลมาเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ด้วยการเซ็นสัญญาค่าตัวหลักล้าน!
แน่นอนว่าจากที่ ลุงพล มีแฟนคลับคอยให้กำลังใจในเรื่องของการสู้คดีน้องชมพู่ แต่เมื่อเรื่องกลับกลายเป็น “หลานตาย ลุงดัง” กระแสลุงพลฟีเวอร์จึงกลายเป็นที่ถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมถึงความโด่งดังอันน่าฉงนนี้
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย. 63) จู่ๆ ชาวทวิตเตอร์ก็แห่ติดแฮชแท็ก #แบนลุงพล จนแฮชแท็กร้อนนี้ขึ้นเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1 ในไทย โดยชาวโซเชียลต่างออกมาแสดงความคิดเห็นว่า จะไม่ขอสนับสนุนสินค้าทุกอย่าง ทุกชนิด “ที่มีลุงพลเป็นพรีเซนเตอร์” รวมทั้งจะไม่ขอแชร์หรือติดตามสื่อที่มีการนำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวของชีวิตลุงพลอีกต่อไป เพราะสังคมรับไม่ได้กับความโด่งดังที่แลกมาจากการตายของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่คดีตอนนี้ยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ หรือสรุปได้เลยว่า น้องชมพู่ถูกใครพาไปและตายด้วยสาเหตุใด?
ถึงเวลาที่สังคมและสื่อควรถูกดึงสติแล้วหรือยัง? #แบนลุงพล ที่เกิดขึ้นนี้จะมีผลอย่างไรต่อไป คงต้องติดตามกันยาวๆ…