จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 63 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพ และเรื่องราวแสนหดหู่หลังพบลูกสุนัขหลายตัว ถูกขังปิดตายด้วยตะแกรงเหล็กอยู่ใต้อาคารศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ทำให้สุนัขออกมาไม่ได้ และส่งเสียงร้องด้วยความหิวอย่างน่าสงสาร ต่อมาเมื่อเรื่องถึง มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ประสานงาน ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ให้เข้าตรวจสอบ และสามารถช่วยเหลือออกมาได้
โดยเจ้าของเฟซบุ๊กเจ้าของโพสต์ ได้ให้ข้อมูลว่า เธอเป็นกลุ่มคนรักสุนัขในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ผ่านมาได้นำอาหารมาให้กลุ่มสุนัขในบริเวณนี้มานานกว่า 2 ปี เพราะสงสารที่พวกมันเป็นสุนัขจรจัดไม่มีอาหารกิน จนกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา พบว่าใต้ถุนอาคารที่เป็นที่อยู่อาศัยของสุนัขถูกปิดตาย และมีลูกสุนัขถูกขังอยู่นับ 10 ตัว จึงประสานเพื่อขอความช่วยเหลือ
ต่อมานายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่าเป็นการดำเนินการซ่อมแซมตะแกรงใต้ถุนอาคารศาลากลางจังหวัด เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขจรจัดเข้าไปอาศัยอยู่ เนื่องจากสุนัขจรจัดมีจำนวนมาก และมีความดุร้ายสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาติดต่อราชการอยู่เป็นประจำ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ประสานงานกับเทศบาลนครเชียงใหม่ และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา ทั้งการทำหมัน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
ล่าสุดเช้าวันนี้ (17 ม.ค. 63) ทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่ายังมีสุนัขเกือบ 10 ตัวที่ยังอาศัยอยู่ใต้ถุนอาคาร โดยสุนัขกลุ่มนี้เป็นลูกสุนัขอายุไม่เกิน 6 เดือน ทุกตัวมีอาการตื่นคน เมื่อเห็นคนจะวิ่งเข้าไปแอบทันที
ทั้งนี้นายชูชาติ พุกชูนาม อดีตข้าราชการที่ศาลากลางเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า สุนัขจรจัดอยู่ในพื้นที่ศาลากลางเชียงใหม่มานานกว่า 30 ปี ก่อนที่จะมีการสร้างอาคารหลังนี้ โดยมีข้าราชการ และประชาชนนำอาหารมาให้ด้วยความสงสารจนเป็นสาเหตุให้พวกมันไม่ยอมไปไหน และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนคาดว่าน่าจะมีจำนวนเกือบ 50 ตัว โดยในช่วงที่ผ่านมากลุ่มสุนัขได้สร้างความเดือดร้อน เพราะชอบกัดเบาะรถจักรยานยนต์ และสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ที่จอดไว้ ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะลดจำนวน แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะมีคนนำอาหารมาให้อยู่เรื่อยๆ และเห็นว่าปัญหาที่เกิดควรได้รับการแก้ไขด้วยการหาบ้านใหม่ให้สุนัขอย่างเร่งด่วน