เฟซบุ๊ก ตะวัน เคลื่อนไหว หลังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ !
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 67 บนทางด่วนย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่ผ่านมา
คดีนี้ศาลอาญา มีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน และนายณัฐนนท์ ชั้นฝากขัง ชี้ มีอัตราโทษสูง-พฤติการณ์ไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย
ล่าสุดมีการอัพเดตจากเฟซบุ๊กตะวัน ว่า ตะวัน – แฟรงค์ ทรุดหนัก ผอมซูบ ชักเกร็ง ไร้เรี่ยวเเรง
โดยระบุข้อความว่า บันทึกเยี่ยมตะวันแฟรงค์ เมื่อวานนี้ 27 ก.พ. 2567 ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แฟรงค์เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และมีน้ำหนักตัวเหลือ 37.55 กิโลกรัม โดยตอนนี้ไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจพร้อมบอกกล่าวว่า “จะไม่เอาอะไรจากใครแล้ว จะไม่ร้องขออะไรอีก”
อาการของแฟรงค์ มีอาการชักเกร็ง นิ้วจีบ อัตราการเต้นของหัวใจ 150 ครั้ง/นาที ขณะชักเกร็ง แฟรงค์พูดกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า “กูจะไม่ยอมพวกมึงอีกต่อไปแล้ว” และในระหว่างเยี่ยม แฟรงค์ดูเหนื่อยหอบ และแฟรงค์เล่าว่าเมื่อวานอาการหนักมาก รู้สึกร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ และมองเห็นเพดานเป็นสีแดงกับสีส้ม
โดยแฟรงค์มีอาการดังนี้
-รอบดวงตาดูกลวงโบ๋จนเห็นเป็นโครงกระโหลก
-ปากแตกแห้งจนลอก
-ใต้ตาคล้ำ
-ฉี่นิดเดียว มีสีเข้ม
-ไม่ขับถ่าย
-มีอาการ เฉื่อยๆ เบลอๆ เหม่อลอย ต้องมีคนช่วยเข็นวิลเเชร์ให้
ซึ่งในตอนกลางคืน แฟรงค์นอนไม่หลับเพราะเครียด กว่าจะหลับได้ก็ระยะเวลา 03.00น. แฟรงค์กล่าวว่า “ต่อให้เรากลับไปรับเงื่อนไขอะไรก็ตาม ก็ใช่ว่าเขาจะปล่อยเรา ผมคิดว่ามันอยากกดหัวเราไว้ อยากควบคุมเราให้อยู่’’
เพื่อนยังบอกแฟรงค์อีกว่า ตะวันได้จิบน้ำไปแก้วหนึ่งในคืนวันศุกร์จากที่พ่อแม่ขอร้องเพราะเป็นห่วง บอกให้แฟรงค์จิบน้ำเพื่อยื้อชีวิต แต่แฟรงค์ยกมือโบกส่ายหน้าและยิ้ม แฟงค์บอกตะวันว่าไม่ต้องห่วงตน พร้อมกับคำสัญญา และขอยืนยันคำเดิมว่า “ผมจะทำต่อไป”
ถ้าหากไม่ส่งตัวไปหาตะวัน ตนก็พร้อมตายในคุก แฟงค์ได้กล่าวอีกว่า ตนเป็นห่วงตะวันมาก แต่ยังยืนยันว่าจะสู้ต่อไป
ในขณะเดียวกัน ตะวันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ตะวันไม่สามารถขึ้นมาชั่งน้ำหนักได้ เนื่องจากทรงตัวไม่ไหว พยายามนอนหลับเพื่อฆ่าเวลาให้ผ่านไปในแต่ละวัน ตะวันเล่าว่า “ตายก็ตาย สู้ต่อไป ยืนยันจะสู้จนกว่าจะตาย” ตะวันมีค่าน้ำตาลในเลือดเหลือ 69 mg/dL และมีรูปร่างที่ซูบผอมลงกว่าเดิมมาก ผอมจนกระดูกซี่โครงโผล่ เห็นไหปลาร้าชัดเจน ขาเเละแขนเล็กมาก กระดูกสันหลังชัดเจน หน้าตอบจนเห็นสันกราม สีผิวดูเหลืองและหมองคล้ำ ผิวแห้งมาก
จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ 23 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา หมอเจาะเลือดตะวันไปตรวจ พบค่าของเสียในร่างกายอยู่ที่ (BUN 50) โดยตอนนี้มีภาวะขาดน้ำ มีกรดในเลือดสูง และมีน้ำตาลในเลือด 70/80 mg/dL และมีอาการพะอืดพะอม ไม่มีแรง อิดโรย พูดช้ามาก ปากแห้งแตกจนลอก ฉี่นิดเดียว มีสีเข้ม ไม่ขับถ่ายแล้ว และมีประจำเดือนมาเมื่อวันเสาร์ เป็นสีดำคล้ำ ตนไม่มีแรงไปฉี่ พอถึงเวลาเปลี่ยนผ้าอนามัย ในระหว่างเยี่ยม แม่ของตะวันช่วยพยุงตะวันไปทำความสะอาดร่างกาย เนื่องจากตะวันไม่มีแรงจะทำกิจวัตรประจำวันแล้ว รวมถึงมีอาการอ่อนเพลียจากการเสียเลือดของประจำเดือน
พ่อของตะวันได้ประกันตะวัน และมีคำสั่งจากศาล ให้พ่อมาเอาเอกสารจากแพทย์ เพื่อไปให้ศาลพิจารณาให้รอบคอบ และหลังจากนั้นศาลก็สั่งว่า ในเมื่ออยู่ในความดูแลของแพทย์แล้วก็อยู่ต่อไป ตะวันเมื่อได้คำกล่าวเช่นนี้ ถึงกับมีอาการเสียใจ
เมื่อตะวันได้ฟังข้อความจากแฟรงค์ ตะวันเป็นห่วงแฟงค์มาก ฝากบอกแฟรงค์ว่าให้อดทนและให้หายใจเข้าไว้ และในส่วนของตะวันเมื่อถึงเวลา ก็จะตัดสินใจว่าจะไม่เอาอะไรอีกแล้ว ตะวันฝากขอบคุณทุกกำลังใจ และให้แฟรงค์รู้ว่าตะวันอยู่กับแฟรงค์เสมอตลอดไป และ“สัญญาต้องเป็นสัญญา”
คลิปอีจันแนะนำ
แม่เจ็บปวด! ลูกมีชีวิต ได้แค่ 4 ขวบ