วันที่ 19 ก.ค.66 ภาพเงาองค์พระธาตุลำปางหลวง ที่ทาบทับไปบนท้องฟ้า ซึ่งเผยแพร่ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยระบุข้อความว่า สวัสดียามเช้า ภาพอันเป็นมงคล เงาองค์พระธาตุลำปางหลวง บนท้องฟ้ายามเช้า ภาพดังกล่าวมีผู้กดไลก์กว่า 1.2 พันครั้ง และแชร์ไปกว่า 150 ครั้ง
ภายหลังจากที่ภาพดังกล่าวเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตแห่แชร์ต่อและคอมเมนต์ว่า เป็นภาพที่หาดูยาก งดงาม และน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
สำหรับ “พระธาตุลำปางหลวง” นั้น เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 นอกจากเป็นวัดไม้ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ซึ่งงดงามด้วยสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรมภายในประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า หรือพระแก้วมรกต อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวลำปาง และชาวพุทธทั่วไป เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิในศิลปะล้านนาที่สลักด้วยหยกสีเขียว และมีการจัดงานนมัสการพระแก้วดอนเต้า ในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี นอกจากนี้ พระธาตุลำปางหลวง ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู เริ่มสร้างในปีฉลู และเสร็จสิ้นในปีฉลู เช่นเดียวกันอีกด้วย
สำหรับภาพเงาองค์พระธาตุลำปางหลวง ที่ทาบทับไปบนท้องฟ้า เหมือนกับ รูปพระธาตุดอยสุเทพ ลอยกลางท้องฟ้า ซึ่งสร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์เมื่อเดือน มิ.ย.66ซึ่ง รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ อธิบายไว้ว่า “รูปพระธาตุดอยสุเทพ ลอยกลางท้องฟ้า ไม่ใช่ภาพปาฏิหาริย์อะไรนะครับ แต่เป็นเงาของตัวพระธาตุ ที่โดนแสงสปอร์ตไลท์ ส่องไปกระทบกับเมฆที่ลอยต่ำอยู่เหนือท้องฟ้าเชียงใหม่
อ.เจษฎ์ ยัน ภาพพระธาตุดอยสุเทพ ลอยฟ้า คือ เรื่องจริง