สรุปดราม่าเดือด ลูกบ้านโวย โรงเรียนเป่านกหวีดดัง ทำเสียสุขภาพจิต

ดราม่าเดือดไม่หยุด! ลูกบ้านหมู่บ้านดังโวย โรงเรียนย่านเขตคลองสามวา ที่อยู่มาก่อน 30 ปี เป่านกหวีดเสียงดัง ทำเสียสุขภาพจิต

ถึงโรงเรียนจะยอม แต่กระแสดราม่ายังคงเดือดปุดๆ อยู่ค่ะ สำหรับกรณีลูกบ้านหมู่บ้านดังร้องโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ว่าเป่านกหวีดเสียงดังทำให้เสียสุขภาพจิต 

โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ภาพโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เปรียบเทียบระหว่าง ปี 2561 และปี 2566 พร้อมแคปชั่นว่า  

“โรงเรียนแห่งหนึ่งตั้งมาก่อนหมู่บ้านเกือบ 30 ปี แต่พอมีหมู่บ้านแล้วผู้คนเริ่มเข้ามาพักอาศัย กลับถูกผู้พักอาศัยบางกลุ่มร้องเรียนเรื่องการจราจร (เสียงนกหวีด) ที่ว่าทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต ให้เปลี่ยนไปใช้สัญญาณไฟแทน  

อย่าลืมว่ามันคือเขตโรงเรียน ความปลอดภัยหน้าโรงเรียนต้องมีเป็นอันดับแรก ยังไงก็ขอให้ปรับสภาพและหาพื้นที่ตรงกลางกันให้ได้นะครับจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข” 

งานนี้ทำเอาเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่เลยล่ะค่ะ เช่น เหมือนพวกไปซื้อบ้านใกล้สนามบินแล้วโวยวายเรื่องเสียง, โรงเรียนมีมาก่อนหมู่บ้าน คุณเลือกที่จะมาซื้อตรงนี้เองนี่ ร้องเรียนเขาซะงั้น อิหยังวะ, ทีมโรงเรียนค่ะ ลูกบ้านไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลค่ะ 

ขณะเดียวกัน ก็ได้มีครูหัวหน้าจราจรของโรงเรียนเข้ามาคอมเมนต์อธิบายถึงปัญหาเสียงนกหวีด ที่ทำให้ลูกบ้านในละแวกใกล้เคียงไม่พอใจ ระบุว่า  

“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการก่อสร้างโรงเรียนได้รับผลกระทบเรื่องรถบรรทุกที่เข้ามาถมดินในโครงการ ในช่วงเวลาที่นักเรียนต้องมาโรงเรียนครูก็อำนวยความสะดวกให้ต่างๆ ทำไมโรงเรียนไม่เคยร้องเรียนคุณเลย นั้นเพราะเรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงและโรงเรียนต้องปรับตัวเหมือนที่ครูได้เล่าให้ฟังทุกอย่างที่โรงเรียนมีกิจกรรมเราถูกร้องเรียนหมดครับ แต่เราเลือกที่จะเงียบแค่นั้นเอง 

เสียงนกหวีดจะหายไปปิดถนนข้างโรงเรียนกลับไปใช้เส้นทางเดิมเหมือนเมือก่อน วนขวาไปไม่มีถนนตรงนี้เราก็อยู่ได้นั กเรียนข้ามถนนได้ปลอดภัย ครูไม่ต้องเป่านกหวีด นักเรียน ครู ปลอดภัย เพื่อลดแรงกระแทกของผู้พักอาศัยเพียงคนเดียว แต่เขาต้องตอบสังคมให้ได้ครับ ว่าต้องการเช่นนั้นไหม 

ในฐานะครูเป็นหัวหน้างานจราจรของโรงเรียน ครูปรับเปลี่ยนการเดินรถของครูและบุคลากรของโรงเรียนให้วนเข้าประตูด้านหลังเข้าประตู 2 ข้างห้องพลศึกษา เพื่อที่จะไม่ขว้างรถที่จะต้องวิ่งผ่านทางตรงหน้าโรงเรียนและเข้าซอยหมู่บ้าน ทุกคนปรับเปลี่ยน เวลาที่ปริมาณรถที่มาจากไทยรามัญจำนวนมาก เราก็จะปล่อยในปริมาณมาก เราทำแบบนี้ทุกวัน รถจำนวนมากคนจำนวนมากเราจึงจำเป็นต้องใช้สัญญาณนกหวีดเพื่อเป็นการออกคำสั่งระยะไกล 

เสียงนกหวีดยาว คือหยุด สั้นๆ สลับกัน คือให้เคลื่อนที่ และเราเป่าเฉพาะทิศทางหน้าโรงเรียนให้ให้หยุดทางทิศทางรถที่มาจากไทยรามัญเท่านั้น นอกนั้นกรรมการนักเรียนจะมีธงสีแดงกลั้นรถ แค่ช่วงเวลา 06.30-07.30 น. หลังจกนั้นจะปล่อยรถวิงสวนกันสลับกันเองตามปกติ” 

ล่าสุดวานนี้ (26 ธ.ค.66) ทางเฟซบุ๊ก งานประชาสัมพันธ์ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงดราม่าดังกล่าว พร้อมยอมงดใช้เสียนกหวีด ระบุว่า 

เสียงนกหวีดที่เกิดจากการอำนวยความสะดวกให้กับรถยนต์ที่สัญจรในช่วง 06.00-07-30 น. นั้น แม้จะไม่ใช่หน้าที่ของโรงเรียน แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่นักเรียนเดินทางมาโรงเรียนเยอะ อีกทั้ง ถนนรอบโรงเรียนมีทางสามแยกใกล้เคียงกัน และนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนหลายทิศทาง มีนักเรียนจำนวนมากที่ต้องข้ามถนนเพื่อเดินทางเข้าโรงเรียนในช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน จึงเสี่ยงกับการเกิดอันตรายต่อนักเรียน 

จึงได้จัดให้มีครูเวรรักษาการณ์ประจำจุด พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และตัวแทนนักเรียนช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร บริเวณสามแยกด้านข้างโรงเรียนและบริเวณทางข้ามถนนบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับนักเรียนและผู้สัญจร 

แต่อย่างไรก็ดี การอยู่ร่วมกันระหว่างโรงเรียนและชุมชน โดยปราศจากความขัดแย้ง 

ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะชุมชนก็เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมและพัฒนาโรงเรียนและนักเรียน โรงเรียนจึงได้แจ้งให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ให้ใช้สัญญาณมือหรือธงสีในการอำนวยความสะดวกการจราจร และใช้นกหวีดเท่าที่จำเป็น เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนและผู้สัญจรต่อไป 

งานนี้ก็ทำเอาชาวเน็ตแห่วิจารณ์กันใหญ่ มองว่าโรงเรียนที่มาอยู่ก่อนต้องยอมถอยเหรอ ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ พร้อมให้กำลังใจโรงเรียน เช่น หลังนึง หลังไหนครับ จัดประชุมกับหมู่บ้านเลยครับ หาทางออกร่วมกัน มติในที่ประชุมถือเป็นที่สิ้นสุดครับ มีพยานในที่ประชุมเซ็นต์รับทราบ, สนับสนุนให้โรงเรียนใช้นกหวีดเพื่อการจราจรของน้องๆ นักเรียนครับ, แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เอง จะรำคาญอะไรหนักหนา ใจแคบจัง เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน สนับสนุนให้เป่านกหวีดค่ะ เพราะสัญลักษณ์มือและธงไม่พอหรอก เป็นกำลังใจให้ รร. ค่ะ 

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ลูกเพจมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงกันบ้างคะ? 

คลิปอีจันแนะนำ

สุดยอดบุญ! แม่กุหลาบ ใส่บาตรทุกวัน 30 ปี!