วันนี้ (15 ก.ค. 63) ในสถานการณ์ตรึงเครียดแบบนี้ จันได้นำเรื่องราวซึ้ง ๆ ของ “เด็กชายตะวัน แก้วดำ” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากคุณครูชื่อ “ครูเมย์” ผ่านทางเฟซบุ๊ก “ภิญญดา หิมวรรณวง” โดยคุณครูเมย์ เล่าว่า
“เย็นวันจันทร์ ครูออกเยี่ยมบ้าน เด็กชายตะวัน อาสาพาครูเมย์ และครูเจิน ไปเยี่ยมบ้านของเพื่อน ๆ ในละเเวกบ้านใกล้เคียงของตัวเอง เราออกเดินทางไปยังบ้านสวนปราง ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เวลา 16.00 น. เราผ่านห้วย เหว ภูเขาลำเนาไพร รวมถึงข้ามน้ำข้ามคลองกัน จนเยี่ยมบ้านหลังที่ 1 2 3 4 และ 5 สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี”
ตะวัน : ถึงแล้วครับบ้านผม
ครูเมย์ : สองข้างทางมีแค่ป่า กับภูเขา ไม่เห็นบ้านสักหลัง ฝนก็เริ่มตกหนัก
ตะวัน : รถลงไม่ได้ครับ ต้องเดินเข้าไป บ้านไม่มีไฟ ครูกลับก่อนก็ได้ ไม่เป็นไรครับ
ครูเจิน : ไป มาแล้วต้องไปให้ถึง
เราสองคนเดินเท้าลงไป ลงเขา ขึ้นเขา ทางลาดชัน ฝนตกโปรย ๆ ต้องหลบหลีกทางที่ลื่นไหล จนถึงบ้านตะวัน
ครูเจิน : ไม่มีใครอยู่เลยไปไหนกันหมด (ขณะนั้นเวลา 18.20 น.)
ครูเมย์ : ทำไมแม่ไม่หาบ้านเช่าแถว ๆ โรงเรียนละตะวัน
ตะวัน : หาแล้วครับ 3 วันแล้ว ไม่มีบ้านว่างเลย ที่มีก็เดือนละ 2,000 – 3,000 #บางวันแม่มีไม่ถึงร้อยครับครู
ครูเมย์ : ลูกเอ๋ย ตั้งใจเรียนนะตะวัน สักวันเราต้องมีในสิ่งที่เราไม่เคยมี เห้อ เด็กที่ตั้งใจเรียนหนังสือ โตขึ้นจะได้มีงานดีดีทำนะ
ครูเจิน : ลูกเอ๋ยยย
ตะวัน : ก่อนเปิดเทอมแม่พาผมไปซื้อรองเท้ามีตังค์ไปไม่พอเห็นราคาแล้วก็แค่กลับบ้านครับ (น้ำตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งไหล พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เจอออกมาด้วยความหดหู่ใจ)
ครูเมย์ : ได้เงินมาโรงเรียนวันละเท่าไหร่ตะวัน
ตะวัน : 30-40 บาทครับครู บางวันก็…..
ครูเมย์ : วันไหนไม่มีตังค์กินขนมมาเอาจากครูนะ
ครูเจิน : เราไปรอแม่ที่รถครูดีกว่า น่าจะปลอดภัยด้วย
18.50 น. พ่อแม่ของตะวันกลับมาจากไปรับจ้างขึ้นตัดสะตอ ขับรถสวนทางกัน ความมีน้ำใจของพ่อ ส่งสะตอให้ครู พร้อมกับยิ้มแล้วบอกว่า “ขอบคุณครับที่มาส่งลูก”