จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเองว่า ได้โทรไปยังสายด่วน 1669 เพื่อให้มารับตัวคุณพ่อไปที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการหายใจไม่ออก จุกอยู่ที่คอ หลังโทรติดต่อไปแล้ว พ่อมีอาการแย่ลง จึงพยายามติดต่ออีกครั้งแต่ไม่ติด จนครั้งที่ 3 ได้มีผู้ชายรับสาย และพูดว่า ไม่ได้ยินครับ ไม่ได้ยินครับ พร้อมกับเลียนเสียงตัดสาย ตู้ด ตู้ด ก่อนจะวางสายไป
ทีมข่าวอีจัน ใน จ.ราชบุรี ได้คุยกับ น้องมีน อายุ 18 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก
น้องมีน เล่าว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ค.63 คุณพ่อเกิดอาการหายใจไม่ออก และบอกว่าไม่ไหวแล้ว ประมาณ 7 โมง 10นาที
เธอจึงรีบโทร 1669 เวลา 7.13 นาที บอกให้รีบมาด่วนพ่อหายใจไม่ออกให้มาด่วนๆเลยนะคะ เเละบอกที่อยู่ไปเดี๋ยวรอหน้าบ้าน ผ่านไป 4 นาที 7 โมง 17 นาทีค่ะ พ่อก็พูดว่าไม่ไหวแล้วๆ
จึงโทรสายที่สอง มีสัญญาณแต่ไม่มีคนรับสาย จึงกดโทรสายที่สาม ตอน 7 โมง 18 นาที มีคนรับสาย หนูร้องไห้และพูดว่าทำไมนานจัง
ปลายสายที่เป็นผู้ชายก็บอกว่าไม่ได้ยินครับๆ เลียนเสียงตัดสาย ตู้ดๆๆ และวางสายหนูไปเลย
หลังจากนั้นหนูก็สติแตก กองไปกับพื้น รถก็มาถึงประมาณ 7โมง 20 นาที
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
น้องมีนบอกว่า หนูไม่สบายใจในการสื่อสารที่พี่เขาคุยกับหนู เพราะว่าวุฒิภาวะน่าจะมีความคิดใช้คำพูดที่ดีกว่านี้ ได้ ไม่ใช่เอาเรื่องชีวิตคนอื่นมาเล่นอะไรแบบนี้ หนูไม่โอเคเลย หนูมีความคิดว่าถ้าคุณพ่อปลอดภัยก็จะปล่อยไป แต่ว่าตอนนี้คุณพ่อหนูเสียชีวิตแล้ว จึงคิดว่าปล่อยไปไม่ได้เพราะไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดกับใครอีก เรื่องชีวิตคนมันไม่ใช่เรื่องของความสนุก อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเกิดครอบครัวคุณเจอแบบนี้บ้างคุณจะรู้สึกยังไง ยิ่งทำงานด้านนี้ด้วย เกี่ยวกับคนเจ็บคนป่วยก็ควรรู้จักกาลเทศะ ที่ต้องการคืออยากให้มาพูดคุยเป็นการส่วนตัวว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น ทำไมถึงใช้การสื่อสารแบบนั้น มีคำพูดอื่นอีก ทำไมถึงติดเล่นอย่างนั้น ทั้งๆที่คุณพ่อหนูกำลังจะตาย อยากให้เขามาขอโทษต่อหน้าเลย เพราะไม่สมควรที่จะพูดแบบนี้ ถ้าเขาสำนึกผิดจริงๆอ่ะค่ะ
ด้านคุณแม่น้อง บอกเพิ่มว่า จริงๆที่ให้น้องโทรย้ำไปเพราะอยากจะบอกทาง กลัวเข้าซอยผิด แล้วพอน้องเจอคำพูดแบบนั้นเลยสติหลุดเลย
ภาพจากอีจัน
ทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง ผ.อ.โรงพยาบาลราชบุรี เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม นายแพทย์พิเชียร วุฒิสถิรภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นภายในองค์กรนั้นทางโรงพยาบาลรับทราบแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นโดยตัวบุคคล ทางโรงพยาบาลจะดำเนินการหาตัวคนกระทำดังกล่าวต่อไป และได้มีการพูดคุยกับทางญาติผู้เสียชีวิตแล้ว หลังจากเสร็จสิ้นงานศพก็จะมีการเข้าพูดคุยอีกครั้ง