ดราม่า ร้านตัดขนทำแมวช็อก หลังเจ้าของแมวโวย ร้านไม่รับผิดชอบ

สาวใจสลาย ร้านไม่รับผิดชอบ หลังพาแมวไปตัดขนแต่แมวช็อกตาย ร้านแจงแล้วยินดีรับผิดชอบต่อหน้าตำรวจ หวั่นโดนทำร้ายร่างกาย

กลายเป็นเรื่องที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์สนั่น

ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง โพสต์ภาพและคลิปพร้อมข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“ความตั้งใจที่จะพาลูกไปตัดขน แต่ไม่คิดว่าจะเหมือนพาลูกไปตาย ร้านตัดขนสัตว์แห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา ตัดเล็บกัสจังเข้าเนื้อทุกเล็บเลือดออกทุกนิ้ว  ถ่ายคลิปไว้ว่าน้องดุมาก บอกปล่อยให้น้องโวยวายจนเหนื่อย ใช่ลูกเราเหนื่อยเหนื่อยมาก

ถ้าตัดไม่ได้ก็ควรที่จะโทรแจ้งเจ้าของไม่สามารถตัดได้ เราจะได้กลับไปรับน้องกลับ แต่นี้จนลูกเราช็อก เราไปถึงร้าน บ่าย 3 ไปรับน้องประมาณ 6 โมงเย็น ช่างยังตัดไม่เสร็จ

เห็นลูกอาการไม่ดี ถามช่าง ช่างบอกน้องเหนื่อยปกติของแมวที่ตัดขนยังไม่ชิน น้องเหนื่อยจากการดิ้นมาก ไม่นานตัดสินใจเอาน้องออกมา เรารีบพาไปหาหมอ หมอรีบช่วยบอกน้องเข้าขั้นวิกฤตแล้ว ความร้อนทุกปรอท ตัวร้อนมากถึงมากที่สุด

ซึ่งหมอบอกเราว่าน้องไม่ไหวแล้ว ปอดแข็ง ลิ้นช้ำ แดง ปั๊มหัวใจอยู่สักพัก ใช่น้องจากเราไป ฝากถึงช่างควรสังเกตให้มากกว่านี้ คือถ้าเราไม่ไปรับน้องก่อนช่างก็ไม่โทรหาเราเลย

เมื่อคุณบอกให้เราไปฟ้องเอาได้ค่ะ อุตส่าห์โทรเข้าไปคุยด้วยดีๆ แล้วบอกไม่รับผิดชอบ ให้ไปฟ้องเอา ได้ค่ะ”

อีจันติดต่อไปยังร้านดังกล่าว ซึ่งทางร้านบอกว่า

เมื่อวันที่เกิดเหตุ เจ้าของพาน้องกัสจังมาทำความสะอาด ทางร้านถามว่าน้องดุไหม หากน้องแมวดุจะต้องป้องกันแมวกัด โดยการใส่ที่ครอบหัวอวกาศ ส่วนที่ต้องใส่ลวดสลิงเพราะป้องกันน้องดิ้นและตกลงมาจากโต๊ะ หลังจากที่เจ้าของรับน้องกลับไปเพื่อไปโรงพยาบาล และโทรกลับมาหาร้านว่าน้องเสียชีวิตแล้ว

ตนรู้สึกผิด และตกใจมาก พร้อมรับผิดชอบ แต่ตอนที่เจ้าของแมวโทรมา เป็นเสียงผู้ชายคาดว่าเป็นแฟนของเจ้าของแมว ถามตนว่าต้องการออกมาดูแมวไหม ปลายสายอยู่ที่หน้าร้านแล้ว ให้ออกมาเคลียร์กัน แต่ด้วยน้ำเสียงที่ดูโมโหของปลายสาย ทำให้ตนรู้สึกกลัวอาจจะโดนทำร้ายร่างกาย จึงตอบกลับไปว่า ถ้ามาในรูปแบบนี้ให้ไปฟ้องเอา

หลังจากวันที่เกิดเหตุ ตนพยายามติดต่ออีกฝ่ายไปแต่ไม่รับสาย จนอีกฝ่ายส่งข้อความมาบอกว่า ในเมื่อตนบอกให้ไปฟ้องศาลก็ให้รอไปเคลียร์กันต่อหน้าตำรวจ

หลังจากนั้นตำรวจติดต่อมาบอกว่าจะมีการนัดให้ไกล่เกลี่ยกันแต่อยากให้ทุกฝ่ายอารมณ์เย็นก่อน ซึ่งตนขอไม่โต้แย้งใดใด ยอมรับความผิดและพร้อมรับผิดชอบ แต่ขอเจรจาต่อหน้าตำรวจ เพราะหวั่นจะโดนทำร้ายร่างกาย

นี่เป็นข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย ต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง แต่บทสรุปเรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องรอให้ทั้งสองฝ่ายได้เคลียร์ใจกันนะคะ

จันหวังว่าจะจบลงด้วยดี

คลิปแนะนำอีจัน
นักข่าว CNN ยกมือขอโทษ ไม่เจตนาบุกรุก