ชาวออฟฟิศซินโดรม หลายคน มักมีอาการปวดที่คอ บ่า ไหล่
การจัดกระดูกก็เป็นอีกตัวเลือกที่หลายคนมักเลือกที่จะรักษากัน และบางคนอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ก็หายไปหลังจากรักษา
แต่ไม่ใช่กับเธอคนนี้ค่ะ
เพจเฟซบุ๊กชื่อ PT NOTE – บันทึกกายภาพบำบัด โพสต์เรื่องราว ของหญิง วัย 48 ปี เรื่องราวของเธอถูกรายงานบนวารสาร
โพสต์ระบุว่า
“Case report นี้ได้ถูกรายงานในวารสารทางประสาทวิทยา Neurology วารสารระดับ Q1 impact factor 12.258 ซึ่งถือเป็นวารสารที่มีความน่าเชื่อถือสูงมาก
เคสนี้เป็นผู้หญิงอายุ 48 ปี ที่มีอาการปวดคอเรื้อรัง มาพบแพทย์ด้วยอาการอ่อนแรงและปวดคออย่างเฉียบพลัน หลังรับการจัดกระดูก (chiropractic manipulation) ผลการตรวจ x-ray และ MRI พบว่า
กระดูกคอส่วน C5-C6 หัก (cervical fracture)
มีการบาดเจ็บของเส้นประสาทไขสันหลัง (spinal cord injury) ทำให้เกิดการอ่อนแรงแบบอัมพาตทั้งตัว (tetraplegia)
พบการตีบของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทั้งสองข้าง (cerebellar infarction and bilateral cerebral occlusion)
พบการปลิ้นของหมอนรองกระดูก (disk herniation)
พบการฉีกขาดและเลือดออกของเยื่อหุ้มประสาท (epidural hematoma)
ผู้วิจัยได้อภิปรายว่า ผลการตรวจ CT บริเวณกระดูกสันหลังของผู้ป่วยรายนี้ พบว่ามีภาวะ Ankylosing spondylitis ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระดูกสันหลังแตกหักได้ง่าย และแน่นอนว่าก่อนทำการจัดกระดูก ไม่มีการตรวจพบภาวะนี้ของผู้ป่วย
Ankylosing spondylitis คือ โรคที่เกิดการอักเสบซ้ำๆ ของกระดูกสันหลัง และกระดูกเชิงกราน รวมถึงข้อต่อก้นกบ (sacroiliac joint)
หากแต่ในผู้ป่วยโรคนี้ การอักเสบจะไม่ได้มีผลถึงเพียงเส้นเอ็น (ligament or tendon) แต่จะเกิดการอักเสบไปถึงบริเวณที่เป็นจุดเชื่อมของเส้นเอ็นกับกระดูก (entheses)
และเมื่อกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลัง ทำให้มีแคลเซียมสะสมบริเวณเอ็นรอบกระดูกสันหลัง และสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงขอบกระดูกสันหลัง และหมอนรองกระดูก
จนทำให้กระดูกสันหลังแต่ละท่อนเชื่อมติดกัน และเสียแนวการวางตัวที่ปกติ (spine alignment) รวมถึงช่วงการเคลื่อนไหวของผิวข้อด้วย (arthrokinematics movement) ดังนั้นจึงทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ จะมีการแตกหักของกระดูกสันหลังได้ง่าย
หลายครั้งคำถามที่ว่า การจัดกระดูก ควรทำหรือไม่? เป็นสิ่งที่ตอบได้ยาก เนื่องจากผลการรักษานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างไรก็ตามรายงานเคสของผู้ป่วยรายนี้ อาจบ่งชี้ถึงผลข้างเคียงรุนแรง ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จากการจัดกระดูก
หากท่านจะเชื่อถืองานวิจัย และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ในหลายไกด์ไลน์ที่แนะนำเรื่องการรักษาแบบอนุรักษ์ (conservative treatment) สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อเรื้อรัง ท่านเชื่อหรือไม่ ว่าการออกกำลังกายหรือการบริหารต่างๆนั้น ให้ผลลดอาการปวดได้ดีและคงอยู่ยาวนานกว่าหลายการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการจัดกระดูก หรือเครื่องมือทางกายภาพบำบัด
เพราะบางครั้ง การรักษาที่ง่ายและปลอดภัยก็เริ่มได้จากตัวเราเอง”