ไปช่วยราชการ หรือ ไปเป็นทาส ?
ทหารหญิงเจ็บเจียนตาย ถูก หญิงอ้างว่าเป็นเมีย สว.ทารุณ เหตุผล เพราะ ทำไม่ได้ดั่งใจ ทำร้ายสารพัด จนคิดจะจบชีวิตตัวเอง
เรื่องราวนี้ ผู้เสียหาย เปิดใจผ่านรายการโหนกระเเส ว่า เธอเป็นพนักงานร้านกาเเฟของ ตำรวจหญิง ยศ ส.ต.อ. อายุประมาณ 40 ปี เเละอ้างว่าเป็น เมียของ สว.ท่านหนึ่ง
อยู่มาวันหนึ่ง เมีย สว. อ้างว่า จะพาผู้เสียหายไปเรียนทหาร เธอก็ได้ให้สัญญากับเมีย สว. ว่า จะอยู่ดูเเลกัน หลังจากนั้น เธอก็ได้เป็นทหารจริงๆ โดยที่ไม่รู้ว่า ผู้หญิงคนนั้น ทำอะไรยังไงบ้าง จนทำให้เธอได้เป็นทหาร
ไปทำงานที่บ้านหลังนี้ได้ยังไง ?
หลังจากที่เป็นทหาร ทำงานประจำหน่วยอยู่ปีกว่า เมีย สว. ก็ได้ทำเอกสารขอให้ เธอไปช่วยราชการข้างนอก สรุปคือ ไปเป็นคนดูเเล เมีย สว. ที่บ้าน อยู่ดูเเลตามสัญญาที่เคยให้ไว้
อยู่ในบ้านหลังนี้ทำอะไรบ้าง ?
ผู้เสียหาย เล่าว่า เธอทำทุกอย่าง ดูเเล เมีย สว. ตั้งเเต่ตื่นนอนยันเข้านอน พักหลังๆต้องนวดให้จนกว่าจะหลับ เพราะ เขาบอกว่านอนหลับยาก
เเรกๆดี หลังๆมาเป็นอะไรไม่รู้
อยู่มาวันหนึ่ง ผู้เสียหาย เล่าว่า เธอถูกทำร้าย เพราะ เมีย สว. อ้างว่า ทำงานไม่ถูกใจ ไม่ใส่ใจเขาเหมือนเเต่ก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 1 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรอย่างนี้เลย ยกตัวอย่างเหตุการณ์ ที่เมีย สว.อ้าง คือ ผู้เสียหายพูดไม่มีหางเสียง พูดไม่มีคำว่า ค่ะ จึงต้องโดนตบ ปรับเงิน โดยบอกว่า ที่ต้องทำเเบบนั้น เพราะ ต้องการสั่งสอนให้ผู้เสียหายเป็นคนดี
ถูกทารุณอย่างโหดร้าย
เธอโดนฟุตเหล็กฟาดเข้าที่จมูกจนดั้งหัก จมูกหายใจได้เเค่ข้างเดียว หูฟังได้เเค่ข้างเดียว หัวเเตก โดนไม้หน้าสามตีฟาดหลัง ไม้เเขวนเสื้อฟาด นี่คือความโหดร้ายของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มียศตำรวจ
“บางทีเราก็บอกเขาว่า เราพูดเเล้ว เเต่เขาบอกว่า มึงเเถหรือเปล่า ตบปากตัวเองจนเลือดออกนะ ถ้าเลือดไม่ออกห้ามหยุด เดินช้าก็ไม่ได้เขาบอกมึงต้องวิ่ง”ผู้เสียหาย ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เเล้วไปอยู่ที่บ้าน เมีย สว. ได้ค่าจ้างไหม ?
ไม่ได้ เเถมเงินข้าราชการ ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเก็บ เพราะ เขาขอ อ้างเหตุผลว่า พาเข้าไปเป็นทหาร เขาสร้างอาชีพให้ จนผู้เสียหายต้องขอเงินทางบ้านมาใช้ นอกจากนี้ ยังบอกให้ผู้เสียหาย เอารถไปขายอีกด้วย เมีย สว. อยากได้เงินคืน เพราะ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการพาเข้าเป็นทหาร
เธอบอกว่า ขายรถได้จำนวน 200,000 บาท เงินที่เหลือจากการขายรถ จำนวน 70,000 บาท ก็โอนให้ เมีย สว.
“หนูทนพิษบาดเเผลไม่ไหวเเล้ว จนคิดว่าจะจบชีวิตด้วยตัวเอง วันหนึ่งมีโอกาสได้ใช้โทศัพท์ ทักหาเเม่ว่า รักพ่อกับเเม่นะ ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะตอบเเทนบุญคุณยังไง มันเจ็บจนทนไม่ไหวเเล้วจริงๆ”
หลังจากข้อความนั้นถูกส่งไปถึงพ่อเเละเเม่ ที่บ้านเธอจึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกหรือเปล่า วันที่ 11 ส.ค.65 เเม่ของผู้เสียหาย เดินทางมาหาที่บ้าน โดยที่ไม่ได้บอกกับผู้เสียหายก่อน เธอเเละเมีย สว. จึงไม่ทันตั้งตัว เเม่จึงเห็นสภาพของลูกสาว หน้ามีรอยเขียว รอยเเตก จึงถ่ายรูปเก็บเอาไว้
พอมาถึงบ้าน จึงปรึกษากับคนในครอบครัว
ติดต่อ เมีย สว. ขอลูกสาวคืน พ่อบอกจะให้กราบก็ได้ ขอเเค่ลูกกลับคืนมาได้ไหม จะให้ทำยังไงก็ยอม สุดท้าย เมีย สว. บอกจะเอามาส่งมาให้ ครอบครัวก็ได้ประสานกับตำรวจขอให้ไปตามไปด้วย หวั่นเกิดอันตราย เมื่อ เมีย สว.พาลููกสาวมาคืน ตำรวจจึงได้เข้าไปถามเธอว่า “มีคนเเจ้งไปว่า เด็กที่นี่ถูกกักขัง โดนทำร้ายเหรอ ?” เธอก็ตอบกลับมาว่า “ไม่มีนี่คะ”
ตอนนี้ครอบครัวได้ลูกสาวคืน เเต่อยู่ในสภาพที่ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ความปลอดภัยของครอบครัว ก็อยู่กับเเบบระเเวง กลัวว่า ผู้หญิงคนนั้นจะวกกลับมาทำร้าย เเม่ของผู้เสียหายบอกว่า กังวลใจทุกอย่าง เเม้ว่าต่างคนต่างอยู่เเล้ว
เรื่องนี้ สะเทือนทุกหมู่เหล่า ผู้บังคับบัญชาของตำรวจหญิงคนนั้น ต้องออกมาชี้เเจง ถึงข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนหายกังขา เพราะมีเหตุตำรวจหญิงอ้างว่า เอาเงินไปยัดเเล้วฝากคนๆหนึ่งไปเป็นทหารได้
รวมถึง ตำรวจหญิงคนนั้น ต้องออกมาชี้เเจง พฤติกรรมที่เเสดงออกไป โหดร้ายเหลือเกิน
คลิปอีจันแนะนำ
สาวเตือนภัย ชายปริศนาขับรถตาม หวั่นเกิดคดีซ้ำ “ฆ่าข่มขืน”