สาวรีวิว ลาออกจากงานข้าราชการ หมดไฟ เครียด ยิ่งทำยิ่งเสียสุขภาพจิต
(14 ส.ค.65) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง รีวิว การลาออกจากงานข้าราชการ ทำงานมา 5 ปี 1 เดือน เปลี่ยนงานมาทั้งหมด 3 กรม 2 กระทรวง เธอเล่าว่า กว่าจะรับราชการได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องทุ่มเท ให้กับการอ่านหนังสือ ทำข้อสอบ ไม่ใช่น้อยๆ หนักสุด แม้กระทั่ง ไปร้านเหล้า ไปคาเฟ่ ไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ก็ต้องเอาหนังสือไปอ่านด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะบรรจุเข้ารับราชการ
ถามว่าทำไมต้องราชการ ?
เธอตอบว่า เพราะใครๆก็บอก เป็นงานที่มั่นคง และไม่ต้องดิ้นรน เกษียณไป รัฐก็ดูแล เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเหตุผล
ผลจากการที่เธออ่าหนังสือ ทำให้เธอสอบติดราชการเเทบทุกสนาม จึงมีตัวเลือกหลากหลาย ในการทำงาน 3 หน่วยงานภายใน 5 ปี เลยไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เธอเล่าต่ออีกว่า หลายคนคงสงสัย ทำไมถึงเปลี่ยนงานบ่อยนัก เป็นเพราะว่าเด็กรุ่นใหม่ ไม่มีความอดทนหรือเปล่า หนักไม่เอาเบาไม่สู้ล่ะสิ ?
เธอตอบว่า ขอทำความเข้าใจกับเพื่อนๆพี่ๆทุกคนเลยว่า คำว่า อดทน กับ จำทน ความหมายมันต่างกันมาก การที่เด็กรุ่นใหม่ชิงลาออก ไม่ใช่ว่าเขาไม่อดทน แต่เป็นเพราะว่าผลตอบแทนที่ได้จากการทำงานมันไม่คุ้มกับความสามารถ สุขภาพร่างกาย และจิตใจ
“ลองถามตัวเองอีกครั้ง คนที่บอกว่าเด็กไม่อดทน ผู้ใหญ่ จริงๆแล้ว อดทน หรือ จำทน เอาเข้าจริงๆหลายคนก็อยากลาออก แต่…555 (แต่กันเก่งเหลือเกิน ลูกยายแต่ใช่มั้ย) แต่ว่าพี่มีลูก พี่มีครอบครัวไงน้อง พี่มีพ่อแม่ต้องดูแล พี่มีค่าบ้าน ค่ารถ และที่สำคัญ พี่มีหนี้สหกรณ์ เห็นไหมคะ ความต่าง”
ความต่างตรงนี้ ทำให้เธอมองว่า หน่วยงานของรัฐส่วนมากขาดประสิทธิภาพ เพราะคนที่อยู่ ส่วนใหญ่ มักมีแนวคิดแบบเดียวกัน คือ ทำงานพอผ่านๆไปวันๆ เพราะเธอเป็นคนที่มีอุดมการณ์ อยากทำงานด้วยความสามารถที่มีทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแล การบริการที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พอทำผลงานได้ดี ก็มักมีภาระงานใหม่ๆ มาให้เสมอๆ และมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในเวลาอันจำกัด ด้วยเหตุผลที่อ้างว่า “น้องจะได้เก่งๆ #ไม่จ่ะฉันไม่อยากเป็นคนเก่งฉันอยากเป็นคนรวย”
“หลายๆคนในองค์กร ไม่สามารถทำงานได้ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ยกตัวอย่างเช่น บางคนป่วย ทำงานได้ไม่สมเงินเดือน แต่ไม่ยอมลาออก เพราะอ้างว่า ทำงานมานาน ควรได้พักผ่อน ให้เด็กใหม่ทำ และถ้าลาออกไป จะเอาเงินค่ารักษาพยาบาลที่ไหน ทุกคนว่ามันเห็นแก่ตัวเกินไปไหมคะ เงินเดือนเกือบครึ่งแสน แต่ทำงานได้ไม่เต็มศักยภาพ ต้องผลักภาระงานให้เพื่อนร่วมงานที่อายุงานน้อยๆ เงินเดือนน้อยๆ รับผิดชอบ ถ้าอยากพักผ่อนควรลาออกไปพักผ่อนที่บ้านค่ะ ให้คนที่เขาพร้อม เขามีไฟในการทำงาน ได้มีโอกาสได้ทำหน้าที่นั้นบ้าง อย่าเอาความเก่า มาเป็นข้ออ้างเลยค่ะ และอีกหลายๆเหตุผลจากคนหลายๆคน ขอข้ามไปนะคะ”
ยังไม่จบเท่านี้ เธอเล่าอีกว่า ความพีคของการทำงานราชการ คือ
หัวหน้างานสั่งงานเช้าจะเอาเที่ยง สั่งเที่ยงเอาก่อนบ่าย 3 โมง งานอะไรก็ด่วนไปหมด ด่วนจนไม่แน่ใจว่า หัวหน้าเขาลำดับความสำคัญงานเป็นหรือเปล่า อะไรสำคัญกว่า เสาร์อาทิตย์ วันหยุด 2 ทุ่ม โทรมา สั่งงาน จะเอาก่อนเที่ยงคืน อ้าง ข้างบนเร่ง พอเราปฏิเสธ ก็เรียกประชุมสำนักงานในวันแรกของสัปดาห์ทำงานเพื่อด่า ว่าชอบทิ้งงาน
พอลาพักผ่อน ก็โทรตาม ให้ทำงาน การที่ลาพักผ่อนไม่ควรต้องได้ยินเสียงมือถือจากที่ทำงาน สรุป เป็นการลาพักผ่อนที่ไม่ได้พักผ่อน
พอทำงานเเบบนี้มาเรื่อยๆ เกิดเป็นความเครียดสะสม ภายในเวลา 3 เดือนหลังจากย้ายมาทำงานที่ทำงานใหม่ เธอบอกว่า เธอ ช็อค วูบ ต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะโหมงานหนัก ไม่มีเวลาพักผ่อน ผลคือ เป็น(ไทรอยด์เป็นพิษ) hyperthyroidism ได้โรคประจำตัวเพิ่มมา ทำให้ต้องลาป่วย แต่ก็ยังไม่วายโดนโทรตามให้ทำงาน
เจ้าของโพสต์ บอกว่า พอมาถึงตอนนี้ ก็เรื่มคิดเเล้วว่ามาทางถูกทางไหม ชีวิตเราก็แค่นี้ เราจะอยู่แบบนั้น ทั้งๆที่ความสามารถเรามีล้นขนาดนี้เชียวหรือ วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่พร้อมสนับสนุนคนทำงาน รุ่นพี่สอนรุ่นน้องให้มองอนาคตที่แค่ปลายเท้า เอาวันนี้ให้ผ่านไปวันๆ รออีก 10 ปี 20 ปี เพื่อขึ้นเป็นผู้บริหาร ในระบบที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย ชิงดีชิงเด่น กับเงินแค่หมื่นกว่าบาท ที่ต้องจ่ายไปกับภาษีสังคม ตลอดระยะเวลา 5 ปี เข้าใจคำว่า #มีเกียรติแต่ไม่มีกินเลยค่ะ
ด้วยปัจจัยที่กระทบหลายๆอย่างเลยทำให้ เจ้าของโพสต์ ตัดสินใจลาออกจากราชการ เพื่อถอยห่างจากทุกอย่าง ที่เป็น Toxic ต่อชีวิต เปิดโอกาสให้คนที่พร้อมกว่า ได้มีโอกาสเข้าไปทำงาน ด้วยความหวังที่ว่า จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และ หวังว่าสักวันจะได้กลับไปรับใช้และให้บริการทุกท่าน อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง แต่คงไม่ใช่ในฐานะข้าราชการอีกแล้ว
คลิปอีจันแนะนำ
มีเงินเท่านี้ ซื้ออะไรให้แม่ได้บ้างครับ