หนุ่มโพส์เศร้า! ร่างกายแข็งแรง แต่ลิ่มเลือดอุดตันหัวใจ จนเกือบตาย
หลายคนออกกำลังกาย มักคิดว่า “ตัวเองแข็งแรงแล้ว” เเต่อย่าชะล่าใจไปค่ะ คุณอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kee22kee โพสต์เรื่องราวอุทาหรณ์เตือนใจ หลังเจอเหตุการณ์กับตัวเอง ป่วยกะทันหัน เกือบไม่รอด
โดยระบุข้อความว่า “สวัสดีครับโพสต์นี้จะมาแชร์ประสบการณ์เฉียดตายล่าสุดให้ฟัง หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้ได้ไม่มากก็น้อยนะ เอาจริงๆก็คิดเหมือนกันนะว่าเราโชคดีมากๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ย้อนไปคืนวันที่ 16 เมษายน ก็นั่งทำงานที่บ้านตามปกติ

จนถึงเที่ยงคืนก็อาบน้ำนอน ตื่นมากลางดึกประมาณตี 3 ครึ่ง รู้สึกแปลกๆที่กลางหน้าอก อธิบายไม่ถูกว่ามันเรียกว่าแน่นหน้าอก หรือหวิว หรือว่าอะไร รู้แค่ว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน ก็เลยตัดสินใจลุกไปอาบน้ำเผื่อว่าอาการจะดีขึ้น พออาบน้ำเสร็จออกมาก็ยังไม่ปกติ เลยลองนั่งพักในห้องน้ำดู ปรากฏว่ามีจังหวะนึงที่ ไม่สามารถควมคุบการทรงตัวของตัวเองได้แล้ว ตัวก็เอียงไปพิงกับผนังกระจกข้างห้องน้ำ ค้างอยู่ท่านั้นประมาณ 1 นาที จนสุดท้ายสามารถฮึบกลับมาทรงตัวได้ เลยรีบเรียกรถให้ไปส่งที่โรงพยาบาล

ระหว่างทางก็รู้สึกว่าหนาวจัง จะเป็นอะไรรึป่าว จนไปถึงโรงพยาบาล ประมาณตี 5 พอบอกอาการคุณหมอ ขึ้นเตียง รอตรวจ วางกระเป๋าข้างตัว คุยได้อีก 1 -2 ประโยคแล้วภาพก็ตัดไปเลย หลังจากที่รู้สึกตัวอีกที จำได้ว่ามีพยาบาลอยู่รอบเตียง มีท่อช่วยหายใจสอดไว้ มีสายติดตามตัวเต็มไปหมด แล้วก็รู้สึกเจ็บบริเวณซี่โครง
พอพยาบาล ถามว่า จำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ณ ตอนนั้น ความทรงจำที่พาตัวเองมาโรงพยาบาลไม่มีเลย ยังคิดว่ารถคว่ำเหรอ เกิดอุบัติเหตุเหรอ ทำไมถึงมีท่อช่วยหายใจ เลยทำมือเหมือนจับปากกาจะเขียน พี่พยาบาลเลยหยิบกระดาษกับดินสอให้ นี้ก็เขียนไปว่า “เกิดอะไรขึ้น” พยาบาลก็บอกว่า พี่กีเกิดอาการ cardiac arrest ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน คือหัวใจทำงานผิดปกติจนหยุดเต้น ปั้มหัวใจไป 4 ครั้ง ช็อตไฟฟ้าไป 8 ครั้ง รวมทั้งหมดที่หัวใจหยุดเต้น 19 นาที
พี่พยาบาล บอกว่า ดีที่เหตุเกิดที่โรงพยาบาล เลยมีเครื่องมือช่วยไว้ได้ทัน บางเคสกลับมาก็เป็นเจ้าชายนิทรา กลับมาขยับได้ขนาดนี้คือถือว่าโชคดีมากมาก ซึ่งสาเหตุตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร จนคุณหมอไปฉีดสีแล้วพบว่า “มีลิ่มเลือดไปอุดตันที่หัวใจห้องขวาล่าง เลยทำการดูดลิ่มเลือดออก” ซึ่งเส้นเลือดหัวใจคุณหมอ บอกว่า ปกติดีแค่มีลิ่มเลือดไปอุดตัน ก็ต้องฉีดยาสลายลิ่มเลือด จนกว่าจะออกจากโรงพยาบาล แล้วก็ต้องไปติดตามอาการอีกครั้ง 2 อาทิตย์”

สภาพตามรูปรอยไหม้ข้างลำตัว กับบริเวณหน้าอกมาจากการช็อตไฟฟ้า ส่วนรอยช้ำที่ท้องมาจากการฉีดยาละลายลิ่มเลือด หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ก็มาคิดนะ ชีวิตมันน่าเศร้าเนอะ ถ้าวันหนึ่งเราต้องจากไป โดยที่ยังไม่ได้มีโอกาสบอกลา ในตอนอยู่ที่โรงพยาบาลวันที่ 3 หลังจากที่ถอดท่อช่วยหายใจ ก็ตัดสินใจอัดคลิปวีดีโอที่โรงพยาบาล เป็นข้อความบอกลาคนรอบตัว ใจลึกๆก็หวังว่าจะไม่ต้องใช้ แต่มีไว้ก็น่าจะดีกว่า อย่างน้อยถ้าจะต้องไปจริงๆ ก็มีข้อความบอกลาให้คนรอบข้างได้ Move On
ส่วนสาเหตุของลิ่มเลือดครั้งนี้ ก็ยังไม่แน่ชัดว่ามาได้ยังไง เพราะปกติก็ออกกำลังกาย อาจจะมีทานของทอดของมันบ้าง แต่หลังจากที่ได้โอกาสในการใช้ชีวิตเป็นครั้งที่ 2 ก็จะปรับพฤติกรรมใหม่ ไม่ทำงานหนักจนเกินไป ทานข้าวให้ตรงเวลา แบ่งเวลาให้ถูก หาความสุขให้ตัวเองบ้าง เพราะเราไม่รู้หรอกว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของเรา ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่าเรื่องของผมจะช่วยเตือนสติให้ทุกคน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ประมาท มีเรื่องอะไรที่อยากบอกคนรอบตัวอย่าเก็บไว้ บอกให้เค้ารู้ตอนที่ยังมีโอกาส อย่ารอจนมันสายไป และก็อย่าลืมตรวจสุขภาพด้วย
สุดท้ายขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ และทำงานอย่างเต็มที่ในการที่ช่วยพาผมกลับมาอีกครั้ง ขอบคุณมากมากที่ให้โอกาสที่ 2 ในการใช้ชีวิตกับคนคนนี้ สัญญาจะดูแลหัวใจและร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุดครับ
อีจัน ขอให้เจ้าของโพสต์กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว นะคะ