หมอ เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” ชวนคุย บอกเหตุผลที่ยังต้องมีชีวิตต่อ

อ่านเเล้วโคตรมีพลังใจ หมอ เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” ชวนคุย บอกเหตุผลที่ยังต้องมีชีวิตต่อ เพื่อคนที่รัก งานเเต่งในฝัน คอนเสิร์ตวงโปรด เเล้วคุณล่ะ เจอเหตุผลการมีชีวิตต่อหรือยัง ?

หมอ เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ”

ชวนทุกคนคุยสั้นๆ หัวข้อ “ทำไมเราถึงยังตายไม่ได้ ?”

อีจันอ่านจบเเล้ว อยากให้ทุกคนได้อ่าน เเล้วย้อนกลับมาตระหนักว่าวันนี้มีเหตุผลที่ทำให้อยากมีชีวิตต่อเพราะอะไร

สวัสดีครับ

วันนี้อยากจะมาชวนคุยเรื่องที่น่าสนใจสั้นๆเรื่องหนึ่งครับ

“ทำไมเราถึงยังตายไม่ได้ครับ?”

อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังต้องอดทนมีชีวิตอยู่ต่อไป ทั้งที่ชีวิตส่วนใหญ่แล้วก็ต้องดิ้นรน ชีวิตที่แสนเปราะบางและควบคุมอะไรไม่ได้เท่าไร ชีวิตที่หลายครั้งตอบแทนความพยายามของเราด้วยความผิดหวังอยู่บ่อยๆ

แม้ว่าที่ผ่านมา ผมเองจะได้แชร์มุมมองอย่าง

“การตระหนักว่าเวลาในชีวิตเรามีจำกัด”

“การรับรู้ถึงความโชคดีของการมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน”

“การใช้เวลาของแต่ละวันไปกับสิ่งสำคัญและใช้ชีวิตให้มีคุณค่าในตอนที่ยังมีโอกาสได้ทำ”

ผม ที่พูดกับตัวเองว่า “สู้ดิวะ”

‘เอาหน่อยดิวะ มันยังมีทางไปต่อ ชีวิตยังไม่จบ ยังมีลมหายใจก็สู้ดิวะ’

ผมบอกตามตรงว่า นอกจากชื่อเพจแล้วนั้น ผมไม่พูดคำนี้กับใครมาสักพักละครับ เพราะผมรู้ดีว่าในชีวิตของทุกคนนั้น ทุกคน ‘สู้เต็มที่อยู่แล้ว’ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคร้าย หรือคนที่พบวิกฤตปัญหาในชีวิตหนักๆ ทุกคนเขา สู้เต็มที่

สู้.. จนไม่รู้จะสู้ยังไงกันอยู่แล้ว

พวกคำว่า “สู้ๆนะ สู้ต่อไป สู้ดิวะ” อะไรพวกนี้ บางทีมันอาจไปทำให้หลายคนรู้สึกว่า

นี่กูยังสู้ไม่พอเหรอ? หรือ ลองมาเป็นกูดูไหมล่ะ?

ดังนั้น ผมจึงไม่พูดคำพวกนี้กับใครเลยครับ

ยกเว้นชื่อเพจ ที่ตั้งเพื่อบอกกับตัวเองเท่านั้น

ที่จะมาชวนคุยวันนี้ คือ ผมดันเกิดคำถามที่น่าสนใจขึ้นมาครับว่า

“สู้ไปทำไมวะ?”

จริงๆ มันเป็นอะไรที่เข้าใจได้มากๆเลยนะครับ ที่พอเราสู้กับอะไรมาสักพักแล้วเราจะท้อหรืออ่อนแอ อยากปล่อยจอย แล้วยอมแพ้ไปซะให้จบๆ

ผมคงจะเป็นไอ้ขี้โม้คนหนึ่ง ถ้าจะมาบอกว่าผมรับมือกับทุกอย่างได้ดี มีสภาพจิตใจและทัศนคติอันทรงพลังยอมรับกับทุกความทรมานที่ต้องเจอ แล้วยิ้มให้กับมัน สู้ไปกับมันได้ตลอด

ผมกลับมองว่า “ผมเป็นคนธรรมดา” ทีกำลังเกิดคำถามต่อสิ่งที่ตัวเองกำลังสู้อยู่

เกิดคำถามว่า ‘เราจะอดทนต่อไปเพื่ออะไรกันนะ?’

เพราะอย่างโรคของผมเอง ที่โดยภาพรวมตอนนี้ก็ไม่ได้ถือว่าจะตายกันในวันสองวัน แต่แนวโน้มมันก็ยังคงเป็นโรคที่รุนแรง ล่าสุดเจ้าก้อนในสมองเองก็มีการกำเริบ ผมจำเป็นต้องได้รับการรักษาฉายแสงรังสีรักษาทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งแน่นอนว่าการเอาเนื้อสมองทั้งหมดไปรับรังสีนั้นจะต้องเกิดผลข้างเคียงทางสมองแน่ๆ แค่เกิดเร็วหรือช้า เกิดมากหรือน้อยเท่านั้น ผมต้องเริ่มทานยาทางสมอง รับผลข้างเคียงจากยาเหล่านั้น เพียงเพื่อให้สมองผมจะยังคงพอทำงานได้ที่หกเดือนหลังจากนี้

“ทำไมเรายังตายไม่ได้นะ?”


ผมถามตัวเองในระหว่างรับการรักษาในช่วงที่ผ่านมา

ผมเองไม่ใช่วันรุ่นคนเดียวของประเทศนี้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายครับ มีอีกหลายคนที่ชีวิตต้องเผชิญกับปัญหาหรือโรคร้ายที่ไม่รู้จะผ่านไปได้ยังไง ต้องเจอกับความจริงที่แสนโหดร้ายของโลกใบนี้ที่อาจจะมากกว่าที่ผมเจอด้วยซ้ำ

มันคงเป็นธรรมดาหากเราจะเกิดคำถามว่า

เราสู้ไปทำไมวะ? หรือเราอดทนต่อไปเพื่ออะไรวะ?

วันที่เหตุผลในการพยายามมีชีวิตอยู่นั้น กลายเป็นสิ่งที่ต้องมีพลังมากพอที่จะทำให้เรายังสู้ต่อ

ผมเองนึกคำตอบนานมากเลย (ผมลองไปถาม Chat GPT มาด้วยนะครับ เดี๋ยวเอาแปะไว้ให้ใน  comment) เพราะสำหรับผมแล้วมันยากครับ เพราะผมไม่ได้รู้สึกเลยว่า การที่ยังไม่ได้ตำแหน่งวิชาการ ยังไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือยังไม่ได้มีสิ่งนั้นสิ่งนี้จะเป็นเหตุผลให้อดทนสู้ต่อ

สมมติวันนี้ผมหายไป ก็จะมีคนมาทำงานแทนผมได้ ทีมงานผมจะยังเข้มแข็ง น้องสาวและพ่อแม่ผมก็ดูแลตัวเองได้ดีมาก ไม่น่าเป็นห่วงเลย เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ผมรักทั้งหลายนั้นก็มีชีวิตที่ยอดเยี่ยม พวกเขาคงจะคิดถึงผม คงจะเสียใจถ้าผมหายไปแหละ แต่ผมก็เชื่อว่าเขาจะยังจำเรื่องราวตอนที่เราอยู่ด้วยกันได้ และเชื่อว่าเรื่องราวของเราจะเป็นสิ่งดีๆในชีวิตพวกเขาในวันที่ผมไม่อยู่

ผมก็เลยเกิดความคิดแว่บขึ้นมาว่า หรือจริงๆ

“…เราไม่ต้องอดทนต่อแล้วก็ได้ไหม”

แต่

ผมว่าผมก็ยังอยากร้องเพลงในงานแต่งตัวเองนะ

ผมยังอยากชวนเพื่อนมาเที่ยวบ้านใหม่

ยังอยากไปดูคอนเสิร์ตโปเตโต้อีกสักครั้ง

ยังหวังจะได้เห็นรัฐบาลที่จริงจังในการแก้ปัญหาฝุ่นควันของประเทศ

รวมถึงการที่ผมกำลังนั่งเขียนเพจสู้ดิวะอยู่ตอนนี้ ถึงมันจะไม่ได้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากมายอะไร

แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่า

“การที่เรายังคงมีชีวิตอยู่ตอนนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเลยนี่นา” 

และที่สำคัญที่สุด

เมื่อผมหันไปมองทันตแพทย์หญิงหน้าตาดีมีอนาคต ที่ลางานมานอนเฝ้าผมที่โรงพยาบาลตลอดทั้งช่วงการฉายแสงนี้

ผู้หญิงที่บอกผมทุกวันว่า

“เช้าแล้วนะ วันนี้โลกให้เวลาเรามาใช้ด้วยกันเพิ่มอีกหนึ่งวันแล้ว ดีจังเลยเนาะ”

ผู้หญิงที่อาจจะรักผม มากกว่าที่เขารักตัวเอง

ผู้หญิงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้ก็ยัง ‘ยุติธรรม’ แม้จะต้องมาป่วยเป็นมะเร็งแบบนี้

ดังนั้น ผมจึงให้เหตุผลในการต่อสู้กับตัวเองในตอนนี้ว่า

“เพราะยังอยากใช้เวลากับพีมให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ยังอยากมีช่วงเวลาที่น่าจดจำด้วยกันอีกเยอะๆ อยู่เป็นของขวัญให้กันและกันแบบนี้อีกสักหน่อย ร่วมกันสร้างช่วงเวลาแห่งความทรงจำให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อวันหนึ่งที่เวลาของผมมาถึง พีมจะใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นความอบอุ่นให้เขายังมีชีวิตที่มีความสุขต่อไปได้อีกสักพักใหญ่ๆ

สำหรับผมแล้ว เหตุผลเหล่านี้มีพลังมากพอที่จะช่วยให้ผมยังอดทนกับทุกอย่างที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตแล้วมั้งครับ

นี่คงเป็นคำตอบสำหรับผมในวันนี้ ที่มีต่อคำถามว่า

“สู้ไปทำไมวะ”

แล้วทุกท่านล่ะครับ

อะไรเป็นเหตุผลให้ท่านยังพยายามอดทนต่อสู้กับชีวิตที่ไม่ได้สวยงามนี้อยู่?

ผมเอง เคยอ่านคำถามนี้มาก่อนครับ ตอนนั้นเข้าไปอ่านคำตอบของคนอื่นด้วย คนไทยน่ารักครับ คำตอบก็หลากหลายกันไปตามสภาพชีวิตที่แต่ละคนเจออยู่ ผมเจอว่าเหตุผลที่ยังตายไม่ได้นั้นมันเป็นไปได้ทุกอย่างเลยครับ

ตั้งแต่การกลัวไม่มีคนให้อาหารแมว กลัวต้นไม้ที่บ้านตาย การรอของที่ pre-ordered ไว้มาส่ง หรือการรอดู Attack on titan final season ปลายปีนี้

เหตุผลเหล่านั้นมันอาจเพียงพอแล้วให้หลายคนยังอยากต่อสู้กับชีวิตต่อไป

ซึ่งผมอ่านแล้วยิ้มตามกับทุกคำตอบเลยจริงๆครับ รู้สึกยินดีกับเขาเหล่านั้นมากๆ

ยังไงก็ตาม โลกนี้ยังมีคนอีกมาก ที่ชีวิตอาจจะไม่สามารถหาเหตุผลที่เพียงพอในการมีชีวิตอยู่เจอได้ด้วยตัวเอง

ส่วนตัวผมมองว่าสิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่า เราต้องการ ‘ความช่วยเหลือ’ แล้วนะ

อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นครับ

อย่าลังเลที่จะปรึกษาบุคคลการที่ดูแลเรื่องสุขภาพจิต

อย่างผมเองก็ได้ปรึกษาเพื่อน ปรึกษาอาจารย์หมอจิตเวชเพื่อช่วยให้ผมจัดการกับโจทย์ที่ยากแบบนี้ได้ดีขึ้นครับ

หรืออย่างน้อยที่สุด

ทักเพจผมมาก็ได้ครับ ผมเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญและคงไม่สามารถตอบทุกคนได้ดีแบบทันที แต่ผมพร้อมที่จะรับฟังและยินดีที่จะให้กำลังใจกับทุกคนจริงๆครับ

ส่วนคนที่ชีวิตยังโชคดีพอที่จะไม่เกิดคำถามพวกนี้กับตัวเอง ผมเองก็ยังคิดว่าการที่เราพยายามหาเหตุผลนั้น

ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้นนะครับ

ขอให้ทุกท่านพบ “เหตุผลในการมีชีวิตอยู่” ของตัวเองครับ

อ่านเเล้วรู้สึกมีพลังใจ

เเล้วทุกคนล่ะ อ่านเเล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ

เจอเหตุผลที่ยังทำให้ต้องดำเนินชีวิตต่อไปไหมคะ ?

คลิปอีจันแนะนำ
บิ๊กโจ๊กรับ ตม. 116 นาย มีเพื่อนตนจริง! ตม.เอื้อประโยชน์ทุนจีนเทา