ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค.66 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร 2566 ‘THAIFEX-Anuga Asia 2023’ ขึ้น ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของไทย ขณะเดียวกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าอาหาร และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร
เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนในประเทศได้ทราบถึงศักยภาพในการผลิตสินค้าอาหาร เทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารของไทย และเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีในการใช้สินค้าไทย รวมถึงเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร เทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารในเอเชีย
โดยมีผู้เข้าร่วมงานจาก 41 ประเทศ อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอมริกา ลาติน อเมริกา แอฟริกา และอื่นๆ จำนวน 1,763 บริษัท 6,600 คูหา รวมมูลค่าทางการค้า อยู่ที่ 72,708 ล้านบาท จากการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อเจรจาการค้า ใน 4 วันแรก และวันเจรจาธุรกิจ และจำหน่ายปลีกสำหรับประชาชนทั่วไปใน 1 วันสุดท้าย
ซึ่งปรากฎว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.66 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pakpoom Ruangchaisiwawate โพสต์ข้อความระบุว่า
มางาน Thaifex ที่อิมแพคเมืองทอง Rate แท็กซี่ ไม่กดมิเตอร์เท่านั้น
อิมแพค-สีลม 4,000-5,000 บาท
อิมแพค-ปากทางเข้าเมืองทอง 500 บาท
อิมแพค-สุขุมวิท 4,000-5,000 บาท
ขอย้ำว่านี่คือค่าแท็กซี่ ที่คนขับเรียกจากผู้โดยสารต่างชาติคนไทยขอไม่รับ และเป็นแบบนี้ทุกคน คอนเฟิร์ม
นี่มันคือการปล้นชาวต่างชาติชัดๆ รู้สึกอายแทนประเทศชาติ กรมขนส่งทางบกทำอะไรกับมิจฉาชีพพวกนี้ได้บ้างหรือเปล่าในฐานะที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรื่องนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ประเทศตกต่ำลงเรื่อยๆ
ทั้งนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น ในคราบโจรที่แท้จริง, งานใหญ่ขนาดนี้ควรมีรถบัสขนส่งไปทางออก หรือรถไฟฟ้าสายสีแดง และควรมีรถสาธารณะในช่วงนี้ ระหว่างรอรถไฟฟ้า , ตอนต่างชาติห้ามเข้าประเทศ แทบจะกราบผู้โดยสาร พอเปิดประเทศก็นิสัยเดิม, สมาคมแท็กซี่ มาดูหน่อย กรมขนส่งด้วย รวมถึง หิวและโลภไม่สนใจว่าจะส่งผลเสียกับใคร ได้เงินมากๆ เป็นพอ
ร้อนถึง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ที่ในวันเดียวกันได้แจ้งว่า ผู้ตรวจการ กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ปากเกร็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบรถยนต์สาธารณะ (รถแท็กซี่) และอำนวยความสะดวกผู้มาร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร ‘THAIFEX-Anuga Asia 2023’ ผลการตรวจสอบพบการกระทำความผิดจำนวน 12 ราย โดยมีข้อหาความผิด ดังนี้
1.ไม่ใช้มาตรมิเตอร์ค่าโดยสาร 2 ราย 2.ใช้รถไม่ชำระภาษี 2 ราย 3.ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร 7 ราย 4.ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุ 1 ราย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก จะดำเนินการจัดส่งผู้ตรวจการลงพื้นที่ดังกล่าวทุกวันจนเสร็จสิ้นในการจัดงาน
อย่างไรก็ตาม งานแสดงสินค้านี้ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) หรือก็คือ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์งานอีเวนท์ ที่เน้นการประชุมและงานจัดแสดงสินค้าเป็นหลัก เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เพราะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ทั้งกิจกรรมที่จัดขึ้นก่อน และหลังการจัดกิจกรรมไมซ์
ช่วยให้ผู้ขายและผู้ซื้อ หรือผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการมีโอกาสได้พบปะ ติดต่อเจรจา สร้างผลประโยชน์และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ อีกด้วย
โดยภายในงาน MICE DAY ที่จัดขึ้นในวันที่ 26 เม.ย.ของทุกปี ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เผยว่า รายงานผลการดำเนินงานอุตสาหกรรมไมซ์ ในสองไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-มี.ค.66) มีจำนวนนักเดินทางไมซ์รวมทั้งสิ้น 11,348,371 คน สร้างรายได้รวม 49,572 ล้านบาท
แบ่งเป็นนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศ 374,021 คน สร้างรายได้ 24,556 ล้านบาท และนักเดินทางไมซ์ในประเทศ 10,974,350 คน สร้างรายได้ 25,016 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมไมซ์กว่า 108,131 ล้านบาท ก่อให้เกิดรายได้ประชาชาติรวม 104,686 ล้านบาท โดยภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีจากการจัดกิจกรรมไมซ์ได้ 7,800 ล้านบาท และเกิดการจ้างแรงงานไมซ์เพื่อการจัดงานทั่วประเทศถึง 145,000 อัตรา
ดังนั้น การกระทำผิดของแท็กซี่เพียงบางส่วน อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยได้ ‘อีจัน’ จึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียง ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กำกับดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง