
สาวเครียดหนัก คนไม่รู้จัก ยืมรถไปใช้ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต สุดท้ายรถชนไม่รับผิดชอบ ที่แท้ขับหนีเจ้าหนี้
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวเครียดหนัก จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เธอเล่าว่า
“จะสู้ไม่ไหวแล้วจริงๆ นะ ถ้าไม่ติดว่ามีลูก มีพ่อที่ค้ำอยู่ คงลาโลกไปแล้ว เป็นรถคันแรกในชีวิตที่เราออกรถด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
ขอความเห็นใจหน่อยได้ไหม ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนที่ทำ กลับมารับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำไว้หน่อย ไม่รู้จะทำยังไงแล้วตอนนี้ ตันไปหมดแล้ว เครียด จนผมร่วงแล้ว
เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชายแฟนยืมรถเราไปใช้ วันนึงพี่แฟนเราถูกตำรวจจับ เราเลยไปตามเอารถคืน ถึงรู้ว่า รถไปอยู่กับเพื่อนของพี่ชายแฟน แล้วเราก็ได้ติดต่อไปขอรถคืนเมื่อวันเสาร์ที่ 14 มค. 66 โดยให้เมียของพี่แฟนเราติดต่อให้ เขาบอกว่าจะเอามาคืนให้ แต่ก็ไม่เอามา เราไม่เคยรู้จักกับเพื่อนของพี่แฟนเลย
วันที่นัดให้เขาเอารถมาคืน เราไปรอที่บ้านพี่แฟน แล้วเขาก็ไม่มา แต่โทรมาทางเมียของพี่แฟน ขอคุยกับแฟนเรา เขาบอกว่าขอยืมรถไว้ก่อน วันอังคารจะต้องไปเดินเรื่องประกันตัวพี่ของแฟนเรา แต่เราก็บอกว่า ให้เอารถมาคืนก่อน ถ้าจะใช้เดี๋ยววันอังคารค่อยมาเอา เขาก้อบอกกับทางแฟนเราว่า ถ้าเกิดปัญหาอะไร เขารับผิดชอบให้ และวันนั้นเขาก็ไม่ได้เอารถมาคืน
จริงๆ เราก็ไม่พอใจ แต่ก็คิดว่าคงไม่น่าเกิดปัญหาอะไร จนวันจันทร์ที่ 16 ม.ค 65 เรารู้ข่าวว่ารถเราคว้ำอยู่ที่อยุธยา เมียของพี่แฟนเปนคนทักมาบอก ซึ้งเมียของพี่แฟนก็รู้มาจากเมียของคนที่เอาไปชนอีกที จริงๆ เขาได้เอารถไปคว้ำตั้งแต่ วันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค ตอนประมาณ 4-5 ทุ่ม แตทเพิ่งติดต่อมาบอกเรา วันจันทร์ ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ
เมียคนชนทักมาขอเอกสารรถ บอกว่าจะเอารถออกจาก สภ.ให้ เราก็เลยถามว่ารถเราอยู่ที่ไหน มีรูปรถเราตอนชนไหม เขาบอกไม่มีเลย จนได้ไปเจอรถที่ สภ.อยุธยา ตอนแรกเมียคนที่ชนบอกว่า แค่ชนป้ายข้างทาง กระจกแตก ล้อแตก เราคิดว่ารถเราคงไม่เป็นอะไรมาก
จนวันพุธ เราไป สภ.อยุธยา ถึงกับเข่าทรุด รถเราเป็นถึงสภาพนี้ ทางคนที่เอาไปชนบอกกับเราว่า วันนั้นเขาไปอยุธยาเพื่อไปคุยงาน และบอกว่าไม่ค่อยชินทางเลยหลุดโค้ง
และวันที่เราไปตามรถที่ สภ.อยุธยาถึงรู้ว่า เขาไปบ่อนไก่ แล้วไปหนีบ่อนไก่ ทำให้หลุดโค้ง คนที่บ่อนไก่มาตามตัวเขาที่ สภ. และบอกกับเราว่า เขาเล่นไก่แล้วท่าทีจะแพ้เขาเลยหนีออกทางห้องน้ำ และขับรถเราหนี ถึงได้หลุดโค้งจนเกิดอุบัติเหตุ”
เธอเล่าอีกค่ะว่า คนชนบอกจะรับผิดชอบทุกอย่าง ให้เธอเอารถไปตีราคาซ่อมที่อู่ ซึ่งอู่ตีราคาประมาณ 2 แสนบาท เธอยังใจดีค่ะ ลดราคาให้คนชนจ่ายเพียง 150,000 บาท
คู่กรณีตกลงกับเธอว่าจะผ่อนจ่ายงวดละ 50,000 บาท โดยเริ่มจากวันที่ 1 ก.พ. 66 จนแล้วจนรอด สุดท้ายคู่กรณีหายเข้ากลีบเมฆ ติดต่อไม่ได้ เธอจนมุมค่ะ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป รถก็ยังผ่อนไม่หมด มาเจอเรื่องแบบนี้อีก
เรื่องราวของเธอเป็นบทเรียนให้ทั้งตัวเธอและคนอื่นได้อย่างดีเลยค่ะ อีจันขอให้คู่กรณีกลับมารับผิดชอบนะคะ
เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องรอติดตามค่ะ หากมีความคืบหน้า อีจันจะมาอัปเดตให้ทราบนะคะ