โอ้โห! พ่อค้าไม้ด่าง แชร์ประสบการณ์ โดนเรียกภาษีย้อนหลัง ล้านกว่าบาท

ขำไม่ออก! พ่อค้าไม้ด่าง แชร์ประสบการณ์ โดนเรียกภาษีย้อนหลัง ล้านกว่าบาท เตือน พ่อค้า-แม่ค้า อย่าพลาด ยิ่งจ่ายช้า ยิ่งโดนเบี้ยปรับทุกวัน

ภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ โดยล่าสุด มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Anek Chanthatep โพสต์ภาพพร้อมข้อความแชร์ประสบการณ์การเสียภาษี ว่า

พ่อค้า แม่ค้าที่ขายต้นไม้ทั้งหลาย ฟังทางนี้ อย่าลืมเสียภาษีทุกปีนะจ๊ะ อย่ามองข้าม มันคือเรื่องใหญ่ สำหรับการค้าขาย ผมโดนย้อนหลังถึงปี 63 ช่วงที่ต้นไม้บูมๆ จนถึงปัจจุบัน คิดว่าเป็นสินค้าเกษตร ไม่ต้องเสีย ไม่มี vat แต่ผมโดนอัตราก้าวหน้า 30% หนักกว่า vat เยอะ หักลดหย่อนหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังต้องจ่ายอีกล้านกว่าบาท ยิ่งคุณจ่ายช้า เบี้ยปรับขึ้นทุกวันครับ ฉะนั้น อย่าคิดว่าเล่นๆ มากน้อยไปจ่ายซะ อย่าให้เค้าตาม ถ้าไม่จ่ายก็อายัดบัญชี และอะไรตามมาอีกหลายอย่าง แนะนำให้เข้าไปพูดคุย เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมาก

ซึ่งถัดมา ‘อีจัน’ ได้สอบถามไปยังเจ้าของโพสต์ ทราบว่า เริ่มขายต้นไม้ด่างในช่วงโควิด-19 ปี 63 ขายดีมาก เนื่องจากคนเล่นไม้ด่างมากขึ้นในช่วงนั้น แต่ที่ผ่านมาเข้าใจว่า ไม้ด่างเป็นสินค้าเกษตรที่ไม่ต้องเสียภาษี เหมือนการขายผักหรือข้าวทั่วไป แต่เมื่อยอดขายมีจำนวนมากขึ้น ต้องเผชิญกับการตรวจสอบ และการเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าจากกรมสรรพากร

โดยได้รับเอกสารจากกรมสรรพากร จากนั้นจึงต้องทำบัญชีและรายงานค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังที่มากเกินไป ดังนั้น การทำบัญชีนี้ทำให้เจ้าของธุรกิจเรียนรู้เรื่องภาษีมากขึ้น และเข้าใจว่า การจ่ายภาษีเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องให้ความสำคัญ และไม่ควรละเลย

ซึ่งรวมระยะเวลา 3 ปี เจ้าของโพสต์ จะต้องจ่ายภาษีทั้งหมดประมาณ 1.3 ล้านบาท จากยอดรายได้กว่าร้อยล้านบาท โดยต้องผ่อนจ่ายตามเงื่อนไข จากการพูดคุยกับฝ่ายกฎหมายของกรมสรรพากร เป็นงวดๆ เช่น 40 งวดหรือ 60 งวด ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ทำให้ยอดภาษีที่ต้องจ่ายลดลงหลายแสนบาท เนื่องจากมีการหักลบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เช่น ต้นทุนคนงาน ซื้อพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ค่าเช่าที่ ค่าทำโรงเรือน ค่าดิน และค่าปุ๋ย เป็นต้น

ทั้งนี้ เจ้าของโพสต์ยังแชร์ว่า การจ่ายภาษีมีข้อดีในเรื่องของความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมทางการเงิน และว่าการมีเอกสารการเงินที่ถูกต้องจะช่วยในการขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้น ส่วนสำคัญคือหลีกเลี่ยงค่าปรับในอัตรา 1.5% ต่อเดือน ซึ่งถือเป็นค่าปรับที่สูงมาก และจะต้องใช้เวลาราว 3-4 เดือน ในการประนีประนอมกับกรมสรรพากร เพื่อลดยอดจ่ายอีกด้วย

“ความเข้าใจเรื่องภาษีมีความสำคัญมาก และเตือนให้คนอื่นๆ ระมัดระวังว่า การไม่เข้าใจเรื่องภาษีอาจทำให้โดนคิดเงินปรับในอนาคต ดังนั้น การทำบัญชีถูกต้องและการรับรู้เรื่องภาษีมีประโยชน์ในการลดภาษีที่ต้องจ่าย ซึ่งการเสียภาษีเงินได้ถือเป็นหน้าที่ของเราคนไทยทุกคน”

คลิปอีจันแนะนำ
พิธีวิวาห์ หลังป้าครองโสดมา 70 ปี