สรุปคดี ฆ่ามัดมือมัดเท้าถ่วงน้ำเด็ก 17 ปี ใครเป็นใคร? ในแก๊งฆ่าทมิฬ

คดีสุดโหดแห่งปี เมื่อสืบพบนายตำรวจระดับผกก.ร่วมกับทีมฆ่าและมีพลเรือนด้วย ร่วมกันลงมือถึง 6 คน


คดีนี้เริ่มต้นจากพบศพ นายนเรนทร์ฤทธิ์ หรือน้องบาส สุวรรณโณ อายุ 17 ปี หนุ่มชาวอำเภอ อ.เทพา จ.สงขลา มาถูกมัดมือมัดเท้า ยิงทิ้งน้ำที่ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา


ตำรวจสืบย้อนไปพบผู้ตาย มีความสัมพันธ์กับลูกสาวของ นายวิชาญ หนูสีคง อายุ 53 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา จึงหาหลักฐานพบรถกระบะ ที่เชื่อว่า นำผู้ตายมายิงทิ้งที่ตรังและคราบเลือดในห้องนอนลูกสาว จึงออกมาหมายจับ นายวิชาญ เป็นคนแรก ซึ่งก็ยอมรับสารภาพ แต่ ยันว่าทำเพียงคนเดียว


ที่น่าตกใจ เมื่อตำรวจขายผล พบทีมฆ่า เด็ก 17 ปี คนนี้ มีคนร่วมกันเกือบ 10 คน และจะน่าตกใจกว่านั้น คือ มี นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ระดับ พ.ต.อ.สังกัดในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติของครอบครัวแฟนสาวผู้ตาย และตำรวจอีก 2 นาย สังกัดตำรวจ ภูธรจังหวัดสงขลา และตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมทั้งพลเรือนอีก 2 คน ร่วมในทีมสังหารด้วย


ซึ่งตอนนี้ตำรวจภูธรเมืองตรัง ขออนุมัติศาลจังหวัดตรังออกหมายจับ ผู้ต้องหาแล้ว 5 คน มี พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา , ด.ต.อนันต์ จันทร์คง สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และ ด.ต.ชัยธวัช กิตติเวชวรกุล สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ส่วนพลเรือนอีก 2 คน คือ นายวิเวท ไชยชนะ และนายศักดิ์นรินทร์ อ่อนช่วย


โดยเมื่อคืนวันที่ 9 ตุลาคม ทางตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 5 คน ไปแยกควบคุมตัวที่ สภ.กันตัง 1 คน สภ.คลองเต็ง1 คน , สภ.ในควน 1 คน และ สภ.ย่านตาขาว 2 คน


ต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2560 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท รอง ผบช.ภ.9 เดินทางมาประชุมหารือการดำเนินคดี เนื่องจากผู้ต้องหามีตำแหน่งเป็น ผู้กำกับ อีกทั้งยังมีนายตำรวจร่วมทีมอีกด้วย โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง หลังออกจากห้องประชุม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดักรอสัมภาษณ์ ซึ่งรองผู้บังบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับด้านคดี แต่ยอมรับว่ายังมีประเด็นชู้สาวรวมอยู่ด้วย


พล.ต.ต.สมิทธิ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า การดำเนินคดีดังกล่าว ทางตำรวจไม่ได้ลำบากใจ พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม จำนวน 6 คน ในส่วนของคดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างสืบสวนจึงไม่ขอพูดมาก ถ้าหากพูดมาจะไปก้าว ล่วงในกระบวนการยุติธรรม ในส่วนของประเด็นการสังหารให้ชัดเจนก่อนจึงสามารถเปิดเผยได้ ส่วนประเด็นชู้สาวก็ยังเรื่องหลักอยู่

วันที่ 11 ตุลาคม ตำรวจนำตัวของ พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมพวกรวม 5 คน ไปฝากขังต่อ ศาล จ.ตรัง โดยมีบรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนข้าราชการตำรวจมายืนให้กำลังใจและลุ้นการประกันตัว
จำนวนมาก ผู้ต้องหาทั้งหมดใช้หมวกและผ้าขาวม้าปิดหน้าทั้งหมด


ซึ่งหลังผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางเข้าไปในศาล จ.ตรัง ทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับไป ส่วนทนายความได้นำหลักทรัพย์ จำนวน เลข 7 หลักมาขอยื่นประกันตัว แต่ต้องรอการพิจารณาจากศาล จ.ตรัง ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรจ์ สะเทือนขวัญและก่อเหตุค่อนข้างโหดร้าย เป็นที่สนใจของชาวบ้านมาก


คดีนี้ ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนียว ,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรอง , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองฯ, พกพาฯ และซ่อนเร้นศพ


รายงานข่าวว่าแก๊งอุ้มฆ่ามีการรับช่วงต่อเป็นทอดๆ ในการทำงาน เรื่องเกิดจากพ่อแฟนสาวรู้ว่าผู้ตายลักลอบมาพบลูกสาวถึงที่บ้าน เกิดบันดาลโทสะทำร้ายผู้ตาย จับมัดมือ แล้วมีการโทรศัพท์ตามให้ พ.ต.อ. ซึ่งเป็นญาติกันมาที่บ้านหลังเกิดเหตุพร้อมนายวิเวท ไชยชนะ น้องชายผู้กำกับฯ หลังจากนั้น พาไปส่งให้กับ ด.ต.อนันต์ จันทร์คง สังกัดกองบังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ในพื้นที่รอยต่อสงขลา – ตรัง และเมื่อไปพาตัวถึงตรัง ซึ่งขณะนั้นน้องบาสยังมีชีวิต ก็ได้ส่งตัวให้กับ ด.ต.ชัยธวัช กิตติเวชวรกุล สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และนายศักดิ์นรินทร์ อ่อนช่วย ก่อนใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงและโยนศพทิ้งคลองเพื่ออำพรางคดี