
เรือสำราญความใฝ่ฝันหนึ่งของใครหลายคน ที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศ การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญสักครั้งในขีวิต แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นการขึ้นเรือสำราญ มักจะต้องไปขึ้นที่ท่าเรือต่างประเทศ เช่น ที่สิงคโปร์ แล้วล่องเข้ามาในไทย ที่หลานคนอาจจะเคยเห็นทุกๆ 2 สัปดาห์ จะมีเรือสำราญ จอดอยู่ที่อ่าวภูเก็ต

แต่ตอนนี้เรือสำราญ สามารถขึ้น-ลง ที่ไทยได้แล้วนะ คิดไม่ถึงกันใข่ไหมคะ ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมมือกับทาง “StarDream Cruises” นำเรือสำราญ “Star Voyager” ให้บริการขึ้นลงที่ไทยเป็นครั้งแรก โดยจะใช้เส้นทาง แหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์-แหลมฉบัง หวังที่จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ขับเคลื่อนให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเรือสำราญระดับโลก






การนำเรือสำราญ “Star Voyager” มาขึ้น-ลงที่ Home port ของประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของ “Star Cruises” ภายใต้ชื่อ “StarDream Cruises” สำหรับ “Star Cruises” ถือเป็นแบรนด์เรือสำราญที่มีประสบการณ์ให้บริการการท่องเที่ยวเรือสำราญมายาวนานกว่า 30 ปี ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน อินเดีย ไต้หวันและฮ่องกง และได้ให้บริการเที่ยวปฐมฤกษ์กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ขึ้น-ลงที่ไทยเป็นครั้งแรก ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี





โดยรอบปฐมฤกษ์ จะมีทั้งหมด 2 เที่ยว เที่ยวแรกเริ่มแล้วค่ะ ตั้งแต่วันนี้ 22-27 เมษายน 68 และเที่ยวที่สอง 7-12 พฤษภาคม 68 ซึ่งเรือสำราญจะใช้เส้นทางเดินเรือแหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์-แหลมฉบัง ระยะเวลา 6 วัน 5 คืน
และวันนี้ 22 เม.ย.68 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ได้มีการต้อนรับนักท่องเที่ยวเรือสำราญเที่ยวแรกที่เข้ามาเทียบท่าเรือแหลมฉบังของไทย ให้การต้อนรับแบบอบอุ่นทั้งกองยาวและนางรำ รวมไปถึงมอบของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างอบอุ่น



ด้านคุณภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการ ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า “การที่แบรนด์เรือสำราญ StarDream Cruises ได้ตกลงนำเรือเข้ามาให้บริการขึ้นลงที่ประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่าง ททท. และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเรือสำราญแบรนด์ระดับโลก ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญในประเทศไทย เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล สะท้อนถึงการทำงานร่วมกันอย่างเหนียวแน่นของพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมรับประสบการณ์พิเศษไปกับเรือ Star Voyager ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการที่จะนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในภูมิภาค และสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวผ่านการนำเสนอเสน่ห์วัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และการต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรีของคนไทย”
+ภาพต้อนรับ+
ในส่วนของ คุณไมเคิล โก๊ะ (Mr. Michael Goh) President of StarDream Cruises กล่าวว่า มีความยินดีและตื่นเต้นกับการนำเรือสำราญ Star Voyager มาขึ้นลงที่ Home port ของประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของ Star Cruises ที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ StarDream Cruises ด้วย และการเปิดตัวครั้งนี้ ยังถือเป็นก้าวสำคัญของความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเรือสำราญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตต่อไป









ซึ่งไฮไลต์หลักของการเดินทางท่องเที่ยวเรือสำราญนี้ จะมีทั้งเกาะสมุย หนึ่งในที่ท่องเที่ยวของไทย ที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและต่างชาติ กับอีกหนึ่งไฮไลต์ เมื่อเรือเดินทางเทียบท่าที่สิงคโปร์แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินเชื่อมไปที่ HarbourFront Centre และ VivoCity ได้เลย ซึ่งทั้งสองที่นี้เป็นศูนย์รวมแหล่งชอปปิ้ง ร้านอาหารและระบบขนส่งสาธารณะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวตามจุดไฮไลต์ต่างๆของสิงคโปร์ได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งโปรแกรมเที่ยวเรือสำราญนั้น นักท่องเที่ยวจะต้องใช้ชีวิตบนเรือตลอด 5 คืน ซึ่งบนเรือเขาก็เต็มไปด้วยกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ทั้งสวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส สปา สระว่ายน้ำ โซนอาหารบุฟเฟต์ คาเฟ่ บาร์ ห้องเกมส์มิ่ง และร้านทำผม เหมือนยกห้างๆหนึ่งมาไว้บนเรือ
ประเภทห้องพักบนเรือก็มีทั้งหมด 4 รูปแบบ มีตั้งแต่แบบประหยัดไปจนถึงความหรูหรา
แบบที่ 1 : ห้อง Interior ห้องไม่มีหน้าต่าง
แบบที่ 2 : ห้อง Oceanview ห้องวิวทะเล
แบบที่ 3 : ห้อง Balcony ห้องพร้อมระเบียงส่วนตัว
แบบที่ 4 : ห้อง Palace Suites ห้องสวีทสุดหรู










และประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญอย่างมาก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากความหลากหลายของสินค้าและบริการการท่องเที่ยว จากข้อมูลสถิติของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) พบว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับเรือสำราญถึง 162 เที่ยว มีผู้โดยสารทั้งหมด 379,036 คน และลูกเรือ 163,331 คน สร้างรายได้เข้าไทยถึง 1.89 พันล้านบาท มีความเติบโตมากกว่าปี 2566 ถึงราวร้อยละ 6.9 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ท่าเรือที่ในการรองรับเรือสำราญมากที่สุดตามลำดับ ได้แก่
1) อ่าวป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
2) ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
3) เกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานี 4) ท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต
5) ท่าเรือศรีราชา จังหวัดชลบุรี




โดยนักท่องเที่ยวที่มากับเรือสำราญส่วนใหญ่มาจากประเทศสิงคโปร์ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ตามลำดับ
หากใครสนใจเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบใหม่ สามารถสอบถามรอบเที่ยวเรือครั้งต่อไปได้ที่ www.recruited.com













