
ประโยคนี้ไม่เกินจริง ไม่เกินไป #บ้านเขาทำไมเราสุข เพราะหัวใจอีจันยกให้ระนอง แบบไม่มีข้อแม้เลยค่ะ
เพราะบ้านเขาทำให้เราสุขได้จริงๆนะ ไม่ได้เกิดที่นี่ไม่ได้โตที่นี่ แต่รู้สึกดีทุกครั้งที่มาระนอง
ใครว่าเมืองเล็กไม่เล็กนะจ๊ะ ?
คนระนองใจใหญ่ทุกคน!
หลายคนแค่อ่านต้นเรื่องก็สงสัยว่าทำไมอีจันถึงอวยระนองขนาดนี้ เพจข่าวอาชญากรรมทำไมถึงหลงรักและลงลึก เรื่องราวของจังหวัดหนึ่งได้ขนาดนี้
เรื่องนี้ยาวมากค่ะ ถ้าจะให้เล่าแต่ยาวแค่ไหนก็จะขอเล่า
อีจันมาระนองไม่ใช่ครั้งแรก แต่มาครั้งไหนเราก็ได้อะไรใหม่ๆกลับไปทุกครั้ง
อีจันเริ่มรู้จักระนองและได้มาระนอง เพราะการทำข่าวอาชญากรรม ใช่ค่ะฟังไม่ผิดเพราะนั่นมันคาแรคเตอร์เราอยู่แล้ว
เรามาระนอง เพราะเรามาทำข่าวคดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคดียาเสพติดและคดีอื่นๆ และเราก็ได้รู้จักผู้การคนใหม่ของระนอง พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ตอนนั้นผู้การมาประจำการที่ระนองหมาดๆเลยค่ะ
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เรามาสัมผัสระนอง ในอีกมุมหนึ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน จากนั้นก็เริ่มมาทำงานบ่อยขึ้น จนครั้งนี้ทำให้เราได้มาระนองอีกครั้งแบบที่พิเศษสุดๆ
การมาระนองครั้งนี้เป็นการมาทำงานและเที่ยวค่ะ สุข 2 เด้ง เรามา 5 วัน เป้าหมายเเรกคือ มาขายเสื้อเพื่อการกุศล ในงานเทศกาลดนตรีของระนองและเราก็ได้สัมผัสอะไรดีดีมากมายในงานนี้
วันแรกที่มาถึงพอก้าวขาออกจากสนามบินปุ๊บ ก็มีพี่ๆมารอรับ ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นเมืองระนอง
พากันมาทางรถตู้เลยค่ะ หมายการทำงานของเราที่มีในช่วงเย็น พี่ๆบอกว่าพอมีเวลาว่าง จะพาไปกินข้าวและไปเที่ยวกันก่อนนะ
เราก็ได้ไปแวะไหว้หลวงพ่อดีบุกค่ะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยดีบุกทั้งองค์ เเถมองค์เดียวของประเทศไทย แถมยังใช้แร่ดีบุกในการหล่อหลวงพ่อซึ่งเป็นแร่ชื่อดังและเอกลักษณ์ของเมืองระนองคือเมืองแร่ดีนั่นเองค่ะ เเละว่ากันว่าที่นี่จะขออะไรจะว่าอะไรก็สมดังใจหวัง
อ่านข่าวคลิก👉🏻
ก็มาเยือนเมืองเขาก็ต้องไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านเขาถูกต้องที่สุดค่ะ ไหว้พระอิ่มใจแล้วเราก็เข้าที่พัก ซึ่งที่พักใจดีที่ให้ที่นอนคูลๆ ที่นี่ดูเเลเรา 4 คืนเต็มๆ ก็คือบลูมังกี้ฮับเเอนด์โฮเทล Blu Monkey Hub & Hotel Ranong
ซึ่งที่พักน่ารักมากๆ มีน้ำแร่ฟรีไม่อั้น ให้ดื่มให้สวยให้สดชื่น แถมรูมเซอร์วิสดีสุดๆ บรรยากาศที่พักสีขาวสะอาดตา จะนั่งอยู่ในห้องจะนอน นั่งเล่นข้างนอกโรงแรมก็ดีมากๆ เพราะมีคาเฟ่และมุมต่างๆไว้ให้เราผ่อนคลายเยอะมากๆ เเอดถูกใจสุดๆค่ะ
ฟินกับที่พักยังไม่หาย เราก็ต้องไปกันต่อค่ะ เรามีงานที่เขาหญ้าเฟส ซึ่งที่นี่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของชาวระนอง เป็นเขาหัวโล้นธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ที่เขานี่ไม่มีต้นไม้ มีเเต่หญ้าแต่ได้ฟิวแบบสวิตเซอร์แลนด์
หน้าหนาวหน้าร้อนคนชอบมาแคมป์ปิ้งที่นี่
เอาเต็นท์มากาง เอาเสื่อมาปู มานั่งชิลล์กินลมถ่ายรูปกันน่ารักสุดๆค่ะ
หลายคนอาจจะมองว่าก็แค่ภูเขาธรรมดาแต่สำหรับคนที่นี่ภูเขาหญ้าหรือภูเขาหัวโล้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้คนจดจำเมืองระนองได้เป็นอย่างดี
เสร็จจากภูเขาหญ้า เราก็ไปกันต่อที่ร้านอาหาร ขอบอกว่าทริปนี้ เรากินกันแบบจุกๆ เลยค่ะ เพราะว่าร้านอาหารที่นี่มีเยอะมากๆ และที่สำคัญเป็นอาหารถิ่นและอาหารพื้นเมืองที่อร่อยโคตร
เริ่มต้นกันที่ร้านโกเจี๊ยวค่ะชื่อ คาเเรคเตอร์ของร้านนี้ก็คือเจ้าของร้านเป็นนักเล่านักพูด พูดไม่หยุด พูดไม่พักแต่สาระล้วนๆ ทำให้เราได้รู้สตอรี่ที่เราไม่เคยรู้ทำให้รสชาติของอาหารอิ่มฟูขึ้นมาทันทีค่ะ
อ่านข่าวต่อ >>>
และอีกหนึ่งร้านอาหารที่เราขอเอ่ยถึง ก็คือร้านคุ้นลิ้นระนองร้านนี้นะคะ ใครมาก็ต้องแวะเพราะว่าร้านเค้ามีอาหารพื้นเมือง อาหารฟิวชั่นที่ใช้วัตถุดิบหลักจากระนอง ชูคุณภาพวัตถุดิบ และเล่าเรื่องราวของจังหวัดระนองได้เป็นอย่างดี
โดยมีเจ้าของคือโกหัว เจ้าถิ่นคนโก้ใจใหญ่ของเรา ที่ดูเเลทีมอีจันตลอดทริปนี้เราโดยไม่มีขาดตกบกพร่องค่ะ
อ่านข่าวต่อคลิก👉🏻
และอีกหนึ่งร้านที่อาหารอร่อยบรรยากาศดีไม่แพ้กัน อีจันก็ขอยกใจให้ร้านอาหารฟาร์มเฮ้าส์ ซึ่งที่นี่มีทั้งที่พักและร้านอาหาร เรียกได้ว่าวันสต็อปเซอร์วิส ห้องพักสวยดูดีอาหารเช้าเว่อร์วังมาก ทานกันแบบเต็มอิ่ม จุกกันไปเลยค่ะ มาระนองครั้งนี้ถ้าแยกวันพักได้ จะพักโรงแรมและคืนเลยค่ะเพราะเยอะและดีไม่ไหว
อ่านข่าวคลิก👉🏻
อกจากทริปนี้เราจะเต็มอิ่มกับร้านอาหารแล้ว เราก็ยังได้สัมผัสบรรยากาศของตลาดเช้าอย่างที่ตลาดสะพานยูง ซึ่งเป็นตลาดที่รวบรวมสินค้าจากชาวบ้านแท้ๆ มีขนมแปลกๆ อย่างเช่นขนมลูกบ้า ขนมจีนดั้งเดิมแบบใช้ปลาทะเลสดๆมาทำและอาหารที่เยอะแยะอีกมากมาย ถ้ามาเดินตั้งแต่เช้าจนถึงสาย เรียกได้ว่ามีหมดตังค์เป็นปึกๆ แน่นอน เพราะอยากจะซื้อไปหมดเลยค่ะ
อ่านข่าวต่อคลิก👉🏻
เดินตลาดให้หนำใจแล้วปวดข้าวอิ่มท้องกันไปแล้ว เราก็มาแช่น้ำแร่ ซึ่งแน่นอนค่ะระนองขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ดีมากๆ โกหัวพาเราไปแช่น้ำแร่และนวดตัวที่รักษะวารินที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมสปาน้ำแร่ ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเลย มีให้เลือกหลายเจ้ามากๆ
แช่น้ำแร่เสร็จก็มีนวดผ่อนคลาย มีลานให้ทำกิจกรรมมากมายใช้เวลาไปกับที่นี่ ดื่มด่ำความสุขและความฟินไปไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงแน่นอนค่ะ
ติมพลังกันเสร็จแล้วเห็นทีจะต้องได้ทำงานต่อ เราก็ไปกันที่หมู่บ้านทับหลี หมู่บ้านซาลาเปาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คนที่นี่เขาเคลมว่าอย่างนี้
หมู่บ้านทับหลีหลายคนเข้าใจว่าอยู่จังหวัดชุมพรแต่เปล่าค่ะ หมู่บ้านทับหลีอยู่จังหวัดระนอง ซาลาเปาทับหลี ซาลาเปาขึ้นชื่อของจังหวัดระนอง แป้งบางลูกเล็กแต่ข้างในไส้แน่นมาก แถมไส้มีเอกลักษณ์เครื่องเทศหอมๆ รสชาติกลมกล่อมหวานๆเค็มๆ
ใครซื้อกินซื้อฝากรับรองว่าไม่มีลูกเดียวเเน่นอน ลูกแรกผ่านไปลูกที่สองที่สามก็ต้องผ่านลงท้องแน่นอนค่ะ
อ่านข่าวต่อคลิก👉🏻
สร็จจากซาลาเปาทับหลีมาอีกนิดหนึ่ง ก็จะเจอกับข้าวมันไก่ทับหลี ที่ขึ้นชื่อไม่แพ้ซาลาเปาทับหลีเลยค่ะ เพราะข้าวมันไก่ที่นี่น้ำจิ้มดี ข้าวเด็ด เนื้อไก่แซ่บ ทานรวมกันลงตัวสุดๆ จนต้องขอเบิ้ลเลยค่ะ
อ่านข่าวต่อคลิก👉🏻
และก่อนกลับกรุงเทพ เราแล้วก็ได้เต็มอิ่มกับการกินการผ่อนคลายการเที่ยวแล้ว ก็แวะมาสัมผัสกับความงดงามของผ้าปาเต๊ะ ซึ่งเป็นผ้าพิมพ์ลายและผ้าปักมือที่สวยงาม และตอนนี้กำลังยกระดับเข้าไปสู่ผ้าสากลแล้ว
เราได้ไปเห็นความตั้งใจของสมาคมแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ที่นำผ้าปาเต๊ะที่ใช้อาบน้ำราคาไม่สูงมาก มาประยุกต์จนทำให้ผ้าปาเต๊ะอัพเกรดตัวเอง และเพิ่มมูลค่าจากพื้นละไม่กี่ร้อยบาท ตอนนี้ราคาพุ่งไปผืนละหลาย 10,000 แล้วค่ะ
อ่านข่าว
เรียกได้ว่าเราได้ทั้งความสุขความฟินความอบอุ่นในการมาเที่ยวครั้งเดียว
ทีนี้รู้กันหรือยังคะว่าอีจันทำไมถึงลงรักระนองขนาดนี้แล้วทำไมถึงอวยไม่หยุดขนาดนี้
นี่แค่ขนาด 5 วันยังเที่ยวไม่ทั่วระนองเลย
แล้วไหนคะใครบอกว่าระนองเมืองเล็กๆ
ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกกี่วันอีกกี่ครั้งถึงจะเที่ยวระนองให้หนำใจและแน่นอนค่ะถ้าเที่ยวจนครบทุกมุมแล้วก็สัญญาว่าจะกลับมาอีกครั้ง
เพราะคนระนองน่ารักมากๆ ขนาดวันกลับยังยกกันมาทั้งทีมเพื่อมาส่งอีจันขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ
แล้วแบบนี้จะให้ไม่ประทับใจได้ยังไงคะ
ยินดีที่ได้รู้จัก
ยินดีที่ได้รัก
ยินดีที่ได้มาเยือน
และสัญญาจะกลับมาอีกครั้ง
อีจันหลงรักระนอง❤️