เกาะพยาม จ.ระนอง เกาะที่ไม่ได้มีดีแค่ที่พัก “พยามที่แตกต่าง”

หากพูดถึงเกาะพยาม ภาพอะไรขึ้นมาในหัวคะ?

ที่พักริมทะเลสวยๆ เป็นหลังๆ มีความคล้ายมัลดีฟ จึงเป็นที่มาของคำว่ามัลดีฟเมืองไทย ใช่ไหมคะ?

ทริปนี้อีจันจะพาไปที่เกาะพยามอีกมุมหนึ่ง

เกาะพยาม ที่ไม่ต้องพยายาม (หมายถึง ไม่ต้องใช้เงินเยอะ ก็ถึงเกาะพยามได้)

เรานั่งเรือออกจากท่าระนอง มุ่งหน้าสุ่เกาะพยาม ใช้เวลา 1 ชั่วโมงนิดๆ

ถึงเกาะมีรถสกายแลป หรือรถตุ๊กตุ๊ก สามล้อ พาเรามุ่งตรงเช็กอินที่พัก เพราะวันนี้ เรามีกิจกรรมแน่นมาก เรียกได้ว่าทุกนาทีมีค่า ใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด

ที่นี่ไม่มีรถยนต์เลยสักคันค่ะ (เป็นประชามติของคนบนเกาะ) คนที่นี่จะใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน และรถแทรกเตอร์ รถแต๊ก หรือรถสกายแลป ใช้รับส่งนักท่องเที่ยว เท่านั้น และถนนเพิ่งตัดผ่านกลางเกาะ เสร็จช่วงโควิดระบาดพอดี ซึ่งเป็นช่วงปิดประเทศ ทำนักท่องเที่ยวน้อยลงมากๆ เรียกว่าถนนเสร็จ แต่เกาะปิดเพราะโควิด

ที่แรกหลังจากเช็คอินเสร็จ เราไปดูวิธีคั่วเม็ดกาหยู หรือเม็ดมะม่วงหิมพาน หรือคนใต้หลายจังหวัด เรียกว่า เม็ดหัวครก และได้ลงมือทำเอง คั่วเอง แกะเองด้วย

ที่นี่ยังใช้วิธีคั่วแบบดั้งเดิมนะคะ จุดไฟจากทางมะพร้าว ใช้ปี๊บผากลางแทนกระทะ เทเม็ดกาหยู แล้วก็คั่วจนไฟลุกทั้งปี๊บ ที่ต้องใช้ความชำนาญในการสังเกตุ ว่าเผาไหม้ได้ที่ คว่ำปี๊บเพื่อดับไฟ และรอให้เม็ดกาหยูเย็น จากนั้นนพมากระเถาะเปลือกที่ไหม้ หรือดำๆ ออกกว่าจะได้กิน

และมีวิธีประยุกต์ใหม่ คือต้ม ตาก แกะ ก็กว่าจะได้ 1 เม็ดก็ใช้เวลาพอสมควร เข้าใจเลยค่ะ ว่าทำไมแพง

ทีมอีจันก็ไปลงมือทำกับพี่ๆ บนเกาะพยามด้วย

ทำไปทำมา จึงได้ข้อสรุปว่า “ซื้อกินง่ายกว่า”

ได้ช่วยอุดหนุนชาวบ้าน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนด้วย

ออกจากโรงคั่วกาหยู แวะขึ้นไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าเด็ด เจ้าเดียว (เพราะมีร้านเดียว) บนเกาะพยาม ที่ร้าน พยาม ซี วิว ค่ะ อิ่มอร่อย วิวดี

ไปต่ออีกที่ค่ะ ไปเรียนรู้วิธีการอนุบาลปะการัง จากทีม Sustainable tourism of Phayam ที่ได้เซ็น MOU  กับ “เอซีจี วีนิไทย ร่วมใจปลูกปะการัง” โดยมีทีมงานให้ความรู้ดีมากๆ และได้มีโอกาส ลงไปดำน้ำดูปะการัง ที่ได้รับการอนุบาลไว้เมื่อ 7-8 เดือนก่อน จากซากปะการังที่ยังมีชีวิต และมีส่วนร่วมในการนำปะการังที่อนุบาลลงสู่ใต้ทะเล (แค่สังเกตการณ์นะคะ) เพื่อให้ปะการังโตขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการช่วยธรรมชาติอีกทางหนึ่งในการฟื้นฟู เติบโตและแตกหน่อ แตกดอกใหม่อย่างสวยงาม

(กิจกรรมอยู่ภายใต้การดูแล และแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ)

ใครไปเป็นกรุ๊ป หรือไปเดี่ยว หากสนใจท่องเที่ยวกับวิสาหกิจชุมชนบนเกาะพยาม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Sustainable tourism of Phayam ได้เลยค่ะ

จุดที่นำปะการังมาอนุบาล แม้ปะการังไม่สวยมาก แต่วัดจากจุดที่นำปะการังมาอนุบาล มีปลาการ์ตูน ปลาดาว แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติจุดนี้ ได้ดีเลยค่ะ

จากนั้นไปต่อค่ะ ไปเล่นเซิร์ฟ ค่ะ หรือเซิร์ฟ บอร์ด ที่หาดอ้าวใหญ่ แต่อย่าเพิ่งตื่นเต้นนะ เพราะทีมอีจันไม่ทีใครเล่นเป็นค่ะ ครั้งแรก!

แต่โชคดีที่ไปเจอกับน้องๆ ชาวมอร์แกน บนเกาะ ที่เป็นนักกีฬาเซิร์ฟ บอร์ด มาแนะนำ สอนตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น จนถึงลงน้ำ และทรงตัว เพื่อบาลานซ์ระหว่างผู้เล่นกับเซิร์ฟ บอร์ด เป็นอีกกิจกรรมที่ชอบมาก ตื่นเต้นสุด ท้าทายดี

ที่อ้าวใหญ่ เป็นสถานที่เล่นเซิร์ฟ บอร์ด ที่นักเล่นเซิร์ฟ จากทั่วโลกนิยมมา ทั้งลม หน้าหาด และคลื่น ทำให้เป็นอ้าวที่รวมตัวของนักเล่นโต้คลื่น อีกที่หนึ่งในไทย

 ทริปนี้ยังไม่จบ อีจันพาไปนั่งมองนกเงือกค่ะ แบบใกล้ชิด แบบไม่ต้องแอบส่อง ซึ่งจริงๆ นกเงือกตามธรรมชาติจะกลัวคน หรือตื่นคน แต่ที่เกาะพยาม นกเงือก ลงมาอยู่ตรงหน้า หลายสิบตัว ใครที่เป็นสายธรรมชาติ ชอบส่องนก แนะนำเลยค่ะ ห้ามพลาด

 เต็มอิ่มหนึ่งวันเต็ม อัดแน่นที่เกาะพยาม

เกาะพยามที่ไม่ได้มีดีแค่ รีสอร์ทสวยๆ ติดทะเล

 2 วัน 1 คืน เต็มที่มากๆ ที่พักบรรยากาศดี ติดริมทะเล กลางคืนบรรยากาศโคตรดี นั้งเก้าอี้ กินลม ดื่มดำธรรมชาติ ดูปูเสฉวนตังใหญ่มาก

มาเองถึงจะรู้ค่ะ แต่ต้องจัดทริป วางแผนล่วงหน้านะ เพราะระนองเป็นเมืองฝน 8 แดด 4

ซึ่งเที่ยวเกาะช่วงไฮซีซัน ได้แค่ช่วง 4 เดือนค่ะ มกราคม – เมษายน

 ไปค่ะ วางแผนแล้วออกไปสัมผัสธรรมชาติ และวิถีชีวิตคนบนเกาะกัน จะได้รู้ว่า ที่เกาะพยาม ไม่ได้มีดีแค่รีสอร์ท

– ค่ารถไถ(อีแต่ก) 2,500 บาท (10คน)

– ค่ามอเตอร์ไซค์สามล้อ 100 บาท/คน

– ค่าอาหารก็ราคากันเอง 50 – 70 บาท / มื้อ

– ค่าดำน้ำดูปะการัง 800 บาท /คน (ขั้นต่ำ5คน)

(Daytrip 1 วัน ดำน้ำ 3 จุด พร้อมไกด์ อาหารเที่ยง ของว่าง ผลไม้ และน้ำดื่ม ประกันฯ)

– ค่าที่พักคืนละ 1500 บาท หาร 2 ก็ตกคนละ 750

– สปิดโบ๊ท เกาะพยาม 350 บาทต่อเที่ยวต่อคน ขึ้นที่ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำระนอง