ไม่เล่นน้ำ ไปไหว้พระกัน! 5 วัดดัง เสริมดวง ช่วงสงกรานต์ 64

แนะนำ 5 วัด เสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง ช่วงสงกรานต์ 64 ไม่ชวนเล่นน้ำแต่ชวไหว้พระ

เทศกาลในเดือนเมษายน ที่ใครหลายคนตั้งตารอ เดือนแห่งซัมเมอร์รับฤดูร้อน เทศกาลที่มีการเล่นน้ำคลายร้อน และยังเป็นเทศกาลสำคัญของคนไทย นั่นคือ เทศกาลสงกรานต์ เป็นเทศกาลที่ปีที่แล้วไม่ได้ออกมาเล่น เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด 19 ระบาดรอบแรก ทำให้รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ งานต่างๆจึงยกเลิก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 มาถึงปี 64 รัฐบาลประกาศการผ่อนคลายมาตรการ และกิจกรรมที่สามารถจัดได้ในช่วงสงกรานต์ มีทั้งกิจกรรมที่สามารถจัดได้และจัดไม่ได้ ซึ่งกิจกรรมที่สามารถจัดได้ คือ ทำบุญ สรงน้ำพระ พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และการเดินทางข้ามจังหวัด กิจกรรมที่ไม่สามารถจัดได้ คือ การเล่นน้ำ ประแป้ง จัดคอนเสิร์ต และจัดปาร์ตี้โฟม

วันนี้จันจะมาแนะนำวัดในจังหวัดต่างๆ ที่ผู้คนนิยมเดินทางไปกราบไหว้ขอพร ทั้งการงาน การเรียน โชคลาภ ความรัก แต่อย่างที่รู้ๆกันนะคะ ว่ายุคนี้มันหนักหน่วงมากกก! เอาเป็นว่าถ้ายังมีงานก็ยังพอเลี้ยงตัว ไปค่ะ จันจะพาไปไหว้ของานกัน พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกทาง เพื่อความสบายใจของตัวเราเอง จะมีวัดที่ไหนกันบ้าง ไปดูกันได้เลยจ้า

เริ่มกันที่วัดแรก พาขึ้นเหนือไป วัดพระธาตุดอยคำ ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีอายุมากกว่า 1,300 ปี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยคำ มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นรอบเมืองเชียงใหม่ ซึ่งพระที่ขึ้นชื่อของวัดนี้ ที่มาแล้วต้องกราบไหว้ คือ หลวงพ่อทันใจ คนส่วนใหญ่จะมาขอพรให้สมหวังเรื่องการงาน โชคลาภ แล้วมักจะประสบความสำเร็จ และแก้บนด้วยการถวายดอกมะลิ

การเดินทางสามารถขึ้นได้ 2 ทาง คือ ทางซ้ายจะเป็นทางที่สามารถขับรถขึ้นไปได้ โดยเฉพาะใครที่พาผู้สูงอายุมาด้วย ส่วนทางขวามือจะเป็นทางเดินขึ้นบันได สำหรับใครที่ต้องการเดินชมธรรมชาติ ก็สามารถเลือกเดินขึ้นบันไดได้เช่นกัน

ขอพรหลวงพ่อทันใจ เขาก็มีทริคด้วยนะคะ

1.จุดธูป 3 ดอก

2.ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่าคาถา “โอม นะโมพุทธายะ ยะอะสะสุมัง จะปาคะ”

3.พูดชื่อ – นามสกุลของตัวเอง

4.ขอพรที่ต้องการ อย่าลืม! ระบุเรื่องที่จะขอให้ชัดเจนนะคะ ได้ครั้งละ 1 เรื่อง แล้วพูดว่า “เมื่อข้าพเจ้าสำเร็จจะนำดอกมะลิจำนวน (ตั้งแต่ 50 พวกขึ้นไป) มาถวายแก่ท่าน”

ขอบคุณข้อมูล : www.emagtravel.com, www.angelstartravel.com

มาต่อกันวัดที่สอง ขึ้นเหนือไปแล้ว ก็มาลงใต้กันต่อที่ วัดเจดีย์ ตั้งอยู่ที่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นชื่อเรื่อง ไอ้ไข่ เมื่อก่อนเป็นวัดรกร้างมาประมาณ 1,000 ปี บูรณะใหม่ปี พ.ศ. 2500 ได้มีหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เกจิอาจารย์ดังสายใต้ เดินทางกลับมาจากกรุงศรีอยุธยา มาปักกรดเดินธุดงค์ อยู่บริเวณนั้นเพื่อพักแรม ส่วนไอ้ไข่ มีอายุประมาณ 9-10 ปี เป็นลูกศิษย์ที่ติดตามมาด้วย ซึ่งสถานที่ดังกล่าวพบว่ามีทรัพย์สมบัติ และศาสนสถานที่สำคัญมาก หลวงปู่ทวดจึงให้ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติ และสถานที่ดังกล่าว

ที่นี่เขานิยมวิธีขอพรจากไอ้ไข่กันค่ะ เริ่มจากสวดบทบูชาพระรัตนตรัย ตามด้วยสวดบทนมัสการพระพุทธเจ้า และอธิฐานเรียกชื่อ ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ตามคาถาดังนี้

“อิติ อิติ กุมารไข่เจดีย์ จะ มหาเถโร ลาภะ ลาภา ภะวันตุเม”

พรที่ต้องการจะขอต้องมีใจที่แน่วแน่ แนะนำให้ขอทีละเรื่อง และชัดเจน หรือเจาะจงเรื่องที่ต้องการ พรที่ขอไปจะได้ผล ซึ่งต้องมี “สัจจะ” เป็นที่ตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ดังนั้นเมื่อบนบานศาลกล่าวอะไร ก็ต้องนำสิ่งนั้นไปแก้บนด้วย ของส่วนใหญ่ที่นิยมนำมาแก้บนจะเป็นรูปปั้นปูนไก่ ชุดทหาร ของเล่นเด็ก ขนมเปี๊ยะ น้ำแดง หนังสติ๊ก ประทัด ล้วนแล้วเป็นของที่ไอ้ไข่ชอบ

ขอบคุณข้อมูลจาก : thailandtourismdirectory.go.th, thaiontours.com

ต่อกันที่วัดที่สาม ขยับมาใกล้กรุงเทพมหานครกันหน่อยนะคะ ขับรถเดินทางสะดวก ที่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือวัดหลวงพ่อโสธร ตั้งอยู่ที่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่คนแปดริ้วนิยมสักการะขอพรให้แก่ตนเอง และครอบครัวมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันวัดหลวงพ่อโสธรก็ยังเป็นที่นิยม ใครๆก็ต่างเดินทางมาขอพรให้ตนเองประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ทั้งโชคลาภ การงานเจริญก้าวหน้า และการเรียน แต่สิ่งที่ห้ามขอท่าน โดยเด็ดขาด คือ ขอไม่ให้ติดทหารกับขอบุตร เพราะหลวงพ่อท่านชอบให้คนเป็นทหาร เพื่อปกป้องบ้านเมือง ส่วนคนที่ขอเรื่องบุตร จะมีไม่ครบ 32 ท่านจะส่งลูกหลานที่เป็นทหารล้มตายมาให้แทน (ความเชื่อนะคะ)

ข้อควรปฏิบัติ : การเข้าไปไหว้หลวงพ่อโสธรในโบสถ์ใหม่ ขอให้แต่งตัวสุภาพ ไม่ใส่กางเกงหรือกระโปรงสั้น เสื้อเอวลอย เสื้อสายเดี่ยวแขนกุดทุกชนิด

ขอบคุณข้อมูลจาก : ilove8riew.com , travel.trueid.net

วัดที่สี่ กลับเข้ามาในกรุงเทพมหานครเลยค่ะ ที่ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือวัดหลวงพ่อโต สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีหอพระไตรปิฏก สถาปัตยกรรม พระพุทธรูปที่มีความประณีตแบบไทย และจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาน สามารถเดินทางได้ โดยนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าเรือรถไฟ ท่าวังหลัง หรือข้ามฝากที่ท่าช้าง แล้วขึ้นท่าเรือวัดระฆัง

การไหว้ขอพรนั้นท่านจะให้เรื่องชื่อเสียงที่ดังกังวานเหมือนระฆัง และการงาน ซึ่งของไหว้จะมีธูป 3 ดอก เทียนคู่ และทองคำเปลว จำนวน 3 แผ่น แล้วท่องบทสวดชินบัญชร เมื่อท่องเสร็จก็ตั้งจิตอธิฐานขอพรที่เราต้องการได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org , www.wongnai.com

วันสุดท้าย วัดที่ห้า อยู่ในกรุงเทพมหานครเหมือนกันค่ะ คือ ศาลพระพิฆเนศ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเทพเจ้าแห่งศิลปิน ความรู้ และความประสบความสำเร็จ ใครต้องการขอพรให้ตนเองประสบผลสำเร็จด้านการงาน หรือการเรียน สามารถมาขอพรกับพระพิฆเนศได้

การเดินทาง ขึ้น MRT มาลงที่สถานีห้วยขวาง ทางออกที่ 4 (โรงเรียนกุนนทีรุทธารามวิทยาคม) เมื่อขึ้นมาแล้วให้เลี้ยวขวา เดินตรงมาทางแยกห้วยขวาง ศาลพระพิฆเนศจะอยู่ด้านขวามือ

สิ่งที่ต้องใช้ในการสักการะ ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม พวงมาลัย หรือดอกไม้ที่มีสีเหลือง ชุดไหว้จะประกอบไปด้วย อ้อย กล้วย สับปะรด น้ำดื่ม น้ำแดง นม ธัญพืช ดอกไม้ ขนมโมทะกะ ขนมลาดู (ห้ามถวายเนื้อสัตว์ และอาหารคาวเด็ดขาด ) ผ้าสไบตามวันเกิด รูปปั้นหนู และจักร

ขอบคุณข้อมูลจาก : tiewgan.com , www.beautyhunter.co.th , www.painaidii.com

5 วัดที่จันมาแนะนำแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ ยังมีวัดดังอีกหลายที่ ที่คนนิยมไปกราบไหว้ขอพร แต่ช่วงนี้เทศกาลสงกรานต์งดเล่นน้ำ ก็เลยอยากจะชวนทุกคนไปทำบุญไหว้พระกันแทนค่ะ ที่สำคัญ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดด้วยนะ! แล้วก็เดินทางข้ามจังหวัดกันอย่างปลอดภัยนะคะ ดูแลตัวเองดีๆนะคะทุกคน ^^