สำนักข่าว NHK World Japan รายงานความคืบหน้า เหตุการณ์ลอบสังหาร “ชินโซ อาเบะ” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 57 ของญี่ปุ่น และหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 65 เพื่อหาเสียงก่อนการเลือกตั้งสภาสูงในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค. 65 ว่า หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อเวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย “ยามากามิ เท็ตสึยะ” วัย 41 ปี ได้ทันที
“ชินโซ อาเบะ” อดีตนายกฯ ญี่ปุ่น เสียชีวิตแล้วสำนักข่าว NHK World Japan รายงานต่อว่า แหล่งข่าวในการสอบสวนบอกกับ NHK ว่า ตำรวจเก็บปืนในที่เกิดเหตุซึ่งดูเหมือนว่าจะทำเอง นอกจากนี้แหล่งข่าวของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่า เท็ตสึยะ รับราชการกับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นคนว่างงาน และผู้สืบสวน ระบุว่า เท็ตสึยะ ไม่พอใจองค์กรหนึ่ง เชื่อว่าอาเบะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ และไม่พอใจกับความเชื่อทางการเมืองของอาเบะ
ทั้งนี้ ตำรวจยังกล่าวอีกว่า เมื่อพนักงานสอบสวนค้นอพาร์ตเมนต์ของ เท็ตสึยะ พวกเขาพบปืนทำเองหลายกระบอกที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับปืนที่พบในที่เกิดเหตุ ซึ่งปืนในที่เกิดเหตุวัดความยาวได้ประมาณ 40 เซนติเมตร
ด้านแพทย์ผู้รักษา อาเบะ กล่าวว่า ทีมงานกว่ายี่สิบคนใช้เวลาสี่ชั่วโมงในการต่อสู้เพื่อช่วยเขาแต่ไม่อาจยื้อชีวิตอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 57 ของญี่ปุ่นไว้ได้
ญี่ปุ่น ประเทศที่มี อาชญากรรม ด้วยปืนน้อยที่สุดในโลก
ขณะที่ อิโตะ โคอิจิ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหน่วยพิเศษของตำรวจโตเกียว และเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียง แสดงความคิดเห็นหลังจากวิเคราะห์ภาพที่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีเดินไปมาพร้อมกระเป๋าและเดินตรงไปหา อาเบะ ว่า การรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลของอดีตนายกรัฐมนตรี อาเบะ นั้นไม่เพียงพอ หลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบยิงขณะกล่าวสุนทรพจน์บนถนนในจังหวัดนารา ทางตะวันตก ของญี่ปุ่น จนทำให้ อาเบะ เสียชีวิต
โดย โคอิจิ ให้ความเห็นว่า เมื่อสังเกตพฤติกรรมที่น่าสงสัยดังกล่าว บุคคลนั้นจะต้องอยู่ห่าง ๆ ก่อน และต้องตรวจสอบทรัพย์สิน พร้อมชี้ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มเหลวในการประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้
สำหรับเหตุการณ์ลอบสังหาร อาเบะ สร้างความตกใจให้กับคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาเบะเป็นผู้นำสมัยใหม่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของประเทศ