ราคาน้ำมัน ปรับขึ้นหลังดีดตัวตาม ความกังวล ต่อสถานการณ์ รัสเซีย

ราคาน้ำมัน ส่อสัญญาณปรับตัวลดลง หลังจากปรับขึ้นหลังดีดตัวตาม ความกังวล ต่อสถานการณ์ รัสเซีย

ถือว่าอาจเป็นสัญญาณดี ที่ช่วยลดความหัวร้อนของคนใช้รถบ้านเรา ที่ต้องกุมขมับกับราคาน้ำมันที่ขึ้นรายวัน ไม่หยุดขึ้นแล้วขึ้นอีกนี้อาจเป็นความหวังเล็กที่ทำให้หายใจทั่วท้องกันบ้าง

สำนักข่าวซินหัวรายงาน ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นสูงเมื่อไม่นานนี้ตามความกังวลด้านอุปทาน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเมษายน มีราคาลดลง 15 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 497 บาท) หรือร้อยละ 12.1 อยู่ที่ 108.7 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,602 บาท) ต่อบาร์เรล ในตลาดนิวยอร์ก (NYMEX)

ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent crude) ส่งมอบเดือนพฤษภาคม มีราคาลดลง 16.84 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 558 บาท) หรือร้อยละ 13.2 ปิดที่ 111.14 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,683 บาท) ต่อบาร์เรล ในตลาดลอนดอน (London ICE Futures Exchange)

เมื่อไม่นานนี้ ราคาน้ำมันได้ทะยานขึ้น โดยทั้งสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและสัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ปิดตัวสูงสุดในรอบเกือบ 14 ปี เมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.) ขณะความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของการจัดจำหน่ายพลังงานจากผู้ส่งออกรายสำคัญอย่างรัสเซีย

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.) สหรัฐฯ ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ขณะสหราชอาณาจักรจะลดการนำเข้าน้ำมันรัสเซียภายในสิ้นปี 2022 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่การคว่ำบาตรพุ่งเป้าตรงไปยังการส่งออกสินค้าของรัสเซีย ส่วนสหภาพยุโรป (EU) เผยแผนลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียด้วย

บรรดานักวิเคราะห์จากยูบีเอส (UBS) ชี้ว่าการส่งออกพลังงานของรัสเซียได้ชะงักงันตั้งแต่ก่อนมีการคว่ำบาตรข้างต้น เพราะกลุ่มผู้ซื้อน้ำมันดิบรัสเซียกังวลการคว่ำบาตรในอนาคตหรือความเสี่ยงเสียชื่อเสียงอยู่แล้ว ทว่าการหาแหล่งพลังงานใหม่มาทดแทนแหล่งพลังงานจากรัสเซียอย่างรวดเร็วถือเป็นสิ่งท้าทายอย่างมาก

สำนักบริหารสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบในคลังของประเทศลดลง 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. โดยผลสำรวจนักวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลต์ส (S&P Global Platts) คาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะลดลง 0.7 ล้านบาร์เรล

คลิปอีจันแนะนำ
จับโป๊ะสกิลใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์!