โรมาเนีย พบ ผู้ติดเชื้อโควิด หลายพันราย หลังจาก ฉีดวัคซีนโควิด

โรมาเนีย พบ ผู้ติดเชื้อโควิด หลายพันราย หลังจาก ฉีดวัคซีนโควิด เนื่องจากการพัฒนาแอนติบอดีจำเป็นต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโรมาเนีย เรียกร้องให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองสุขภาพต่อไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากได้รับวัคซีนโควิด เกือบ 4,500 ราย

นายวาเลริว เกออร์กิตา ประธานคณะกรรมการประสานงานกิจกรรมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แห่งชาติ (CNCAV) แถลง หลังตรวจพบผู้ป่วยมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกภายหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด โดสแรก จำนวน 3,969 ราย และหลังรับวัคซีนโดสสอง อีกจำนวน 446 ราย พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันทั้งก่อนและหลังรับวัคซีน “เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” เนื่องจากการพัฒนาแอนติบอดีจำเป็นต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ เกออร์กิตา ระบุว่า ผู้ได้รับวัคซีนโควิด ร้อยละ 0.49 มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกหลังฉีดวัคซีนโดสแรก และร้อยละ 0.08 หลังฉีดวัคซีนโดสสอง โดยกว่าร้อยละ 95 ของผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค (Pfizer/BioNTech)

โดย เกออร์กิตา อธิบายว่า วัคซีนใช้เวลาออกฤทธิ์ “อย่างน้อย 7, 10 หรือ 14 วัน หลังฉีดวัคซีนโดสสอง ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน” พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ไม่เช่นนั้นประชาชน อาจรู้สึกชะล่าใจ จึงนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

สำหรับประเทศโรมาเนีย ได้เริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ด้วยวัคซีน 3 ตัว ได้แก่ ไฟเซอร์/ไบออนเทค โมเดอร์นา (Moderna) และแอสตราเซเนกา (AstraZeneca)