ทรัมป์ขู่โจมตีอิหร่าน หากทำลายทรัพย์สินของสหรัฐฯ

วานนี้ (4 ม.ค.2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเตือนอิหร่านว่าสหรัฐฯ ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายในอิหร่าน จำนวน 52 แห่ง และอิหร่านจะถูกโจมตีอย่าง “รวดเร็วและรุนแรง” หากทำร้ายพลเรือนหรือทำลายทรัพย์สินของสหรัฐฯ

ทรัมป์เผยผ่านทวิตเตอร์ เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า
“เราได้กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 52 แห่ง (ตัวเลขเดียวกับจำนวนตัวประกันชาวอเมริกันที่ถูกอิหร่านกักตัวเมื่อหลายสิบปีก่อน) ซึ่งบางแห่งมีความสำคัญระดับสูงมากต่อประเทศและวัฒนธรรมของอิหร่าน”
คำขู่จากทรัมป์เกิดขึ้นหลังสหรัฐฯ ทำการโจมตีทางอากาศใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดด เมื่อวันศุกร์ (3 ม.ค.) ซึ่งคร่าชีวิตนายพลคาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน ทำให้อีกฝ่ายโกรธและมุ่งมั่นจะแก้แค้น

ทั้งนี้ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (4 ม.ค.) ว่ามีการรายงานสภาคองเกรสอย่างเป็นทางการ กรณีทำการโจมตีทางอากาศที่สังหารนายพลโซเลมานี ขณะที่หลายเมืองในสหรัฐฯ เช่น วอชิงตัน นิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส ต่างเฝ้าระวังภัยอันตรายหลังเกิดเหตุโจมตีนองเลือด แต่ทางการท้องถิ่นเผยว่ายังไม่พบสัญญาณภัยคุกคามพิเศษหรืออาจเกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี ประชาชนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาเดินขบวนประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกลุ่มต่อต้านสงครามและการเหยียดเชื้อชาติแอนเซอร์ (ANSWER) แถลงว่า “ผู้ที่เชื่อมั่นในสันติภาพ ผู้ที่คัดค้านหายนะสงครามอนาคต ถึงเวลาออกโรงแล้ว”ขอบคุณข้อมูลจาก www.xinhuathai.com