วันนี้ 23 ม.ค.2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า
นักวิจัยจีนได้ระบุโปรตีนตัวสำคัญที่เป็นปัจจัยในการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ในมนุษย์ พวกเขาเสนอข้อสันนิษฐานว่า แหล่งเพาะพันธุ์ไวรัสตามธรรมชาติน่าจะเป็นค้างคาว
ในแผมภูมิต้นไม้วิวัฒนาการ เชื้อไวรัส 2019-nCoV มีลักษณะพันธุกรรมค่อนข้างใกล้เคียงกับกลุ่มโรคซาร์ส และเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีลักษณะคล้ายซาร์ส รวมถึงไวรัสโคโรนา HKU9-1 ที่พบในค้างคาวซึ่งอยู่นอกกลุ่ม มีโอกาสเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสโคโรนาเหล่านี้จะมีสายพันธุ์ร่วมกันกับไวรัสโคโรนา HKU9-1 ในค้างคาว
ค้างคาวเป็นโฮสต์ต้นกำเนิดของ 2019-nCoV “นี่คือเหตุผลเชิงตรรกะที่ไม่ซับซ้อน แม้ยังดูเหมือนว่าจะมีโฮสต์ตัวกลางอื่นๆ อีกในลำดับการส่งผ่านจากค้างคาวสู่มนุษย์” นักวิจัยกล่าว
พวกเขาสังเกตว่าลักษณะพันธุกรรมของ 2019-nCoV กับเชื้อไวรัสซาร์สในมนุษย์นั้น ยังมีระยะห่างทางพันธุกรรมค่อนข้างมาก และห่างมากขึ้นเมื่อเทียบกับเชื้อไวรัสเมอร์ส
สำหรับโรคซาร์ส สไปค์โปรตีน (S- protein) เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้ไวรัสแฝงไปกับตัวรับในเซลล์ของโฮสต์
เมื่อนักวิจัยประเมินความสามารถการทำปฏิกิริยากับตัวรับในเซลล์ของมนุษย์ ของสไปค์โปรตีนในเชื้อ 2019-nCoV พบว่าแม้การเกาะเกี่ยวระหว่าง 2019-nCoV กับตัวรับในเซลล์ของมนุษย์จะไม่แข็งแรงเท่าเชื้อไวรัสซาร์ส แต่ก็ยังถือว่าแข็งแกร่ง
วันพฤหัสบดี (23 ม.ค.63) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนประกาศ ว่ามีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) อยู่ที่ 571 ราย กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคระดับมณฑล 25 แห่ง เมื่อนับถึงสิ้นวันพุธที่ผ่านมา (22 ม.ค.63) มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ในมณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน
ส่วนสถานการณ์นอกจีนแผ่นดินใหญ่ มีการยืนยันผู้ติดเชื้อในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง มาเก๊า เกาะไต้หวันของจีน รวมถึงในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้แห่งละ 1 ราย และอีก 3 รายในไทย มีการเฝ้าระวังการติดเชื้อของผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อข้างต้น จำนวน 5,897 ราย ซึ่งมี 4,928 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบทางการแพทย์ ขณะที่ 969 ราย ผ่านการตรวจสอบและได้รับการปล่อยตัวแล้ว
แผนการป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมการฯ ชี้ว่าตามข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ระยะการฟักตัวของเชื้อไวรัสฯ ตั้งแต่เริ่มติดเชื้อไปจนถึงขั้นแสดงอาการจะใช้เวลาประมาณ 14 วัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง |